Site icon SDG Move

ไฟดับครั้งใหญ่ในยุโรป ‘สเปน–โปรตุเกส’ ทางการตั้งโต๊ะประชุมฉุกเฉิน  เร่งฟื้นฟูระบบไฟและตรวจสอบต้นเหตุ

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันจันทร์ที่ 28 เมษายน) ยุโรปเผชิญความโกลาหลครั้งใหญ่ เมื่อประเทศสเปนและโปรตุเกส รวมถึงบางพื้นที่ของฝรั่งเศส ประสบปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอาศัยโดยไม่มีไฟฟ้าใช้ ศูนย์กลางการขนส่งหลายเเห่งถูกปิด เเละประชากรหลายล้านคนไม่สามารถใช้โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต หรือถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มได้ จากเหตุไฟดับครั้งใหญ่ที่กินเวลากว่า 11 ชั่วโมง สร้างความโกลาหลไปทั่วประเทศ และทำให้สเปนและโปรตุเกสต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมผลกระทบและความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คริสเตียน รูบี้ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าของยุโรป (Eurelectric) ให้สัมภาษณ์กับรายการ The World Tonight ทาง BBC Radio 4 ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ไฟดับครั้งนี้เกิดจากการเชื่อมต่อไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน โดยเฉพาะเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นกับสายเชื่อมไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ระบบโครงข่ายไฟฟ้าของสเปนถูกตัดขาดจากโครงข่ายไฟฟ้าของยุโรปในวงกว้าง ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้ไฟฟ้าดับครั้งนี้และน่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวข้อง

จากความโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้ในประเทศสเปนที่ต้องยกเลิกขบวนรถไฟและอพยพผู้โดยสาร โดยมีขบวนรถไฟ 11 ขบวนที่ติดค้างอยู่จนถึงช่วงเย็นวันจันทร์ และมีเที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกจากสเปนอย่างน้อยอย่างน้อย 344 เที่ยวบิน  รวมถึงเกิดความวุ่นวายบนท้องถนนและระบบขนส่งในกรุงมาดริด รถไฟใต้ดินทุกสายหยุดวิ่ง รถไฟฟ้าและรถไฟชานเมืองหลายขบวนชะงักค้างกลางทาง ทางด้านประเทศโปรตุเกส โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวงลิสบอนและเมืองใหญ่ ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลานาน นอกจากนี้ร้านค้า บ้านเรือน และร้านอาหาร หลายแห่งต้องตกอยู่ในความมืดนับสิบชั่วโมง ทำให้ช่วงบ่ายรัฐบาลของสเปนและโปรตุเกสประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งประชาชนเริ่มรับรู้ข่าวไฟดับวงกว้างผ่านวิทยุและการบอกเล่าต่อ

อย่างไรก็ดี การกู้ระบบไฟฟ้าใช้เวลาหลายชั่วโมง โดยในคืนวันเดียวกันระบบการจ่ายไฟฟ้าประมาณ 90% ทั่วประเทศสเปนได้รับการกู้คืน ขณะเดียวกันบริษัทพลังงาน REN ของโปรตุเกสสามารถจ่ายไฟคืนให้กับลูกค้าได้ถึง 750,000 ราย และกลับมาใช้ได้ปกติในเวลาต่อมา ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลสเปนและโปรตุเกสแถลงข่าวร่วมกันที่มาดริด ระบุว่าการจ่ายไฟฟ้ากลับสู่ภาวะปกติแล้วเกือบทั้งหมดเหลือเพียงแก้ไขจุดย่อย และให้คำมั่นว่าจะสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส ซึ่งจากเหตุการณ์นี้สเปนและโปรตุเกสสามารถฟื้นฟูประเทศจากสภาวะไฟดับครั้งใหญ่กลับสู่สภาพเกือบปกติ ซึ่งต้องอาศัยทั้งความร่วมมือภายในประเทศและนอกประเทศที่ทันท่วงที

ด้านผู้ให้บริการไฟฟ้าของโปรตุเกสเผยว่า สาเหตุของเหตุการณ์ไฟฟ้าดับอาจเกิดจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในสเปน ซึ่งทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนผิดปกติในสายไฟแรงสูง และส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่อของโครงข่ายไฟฟ้า ขณะที่ประธานสภายุโรปยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์ แม้จะมีข่าวลือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการก่อวินาศกรรม ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรปอย่างชัดเจน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญตั้งแต่ระบบขนส่ง การสื่อสาร ไปจนถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานต่างได้รับผลกระทบ 

สเปนถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดของยุโรป จากเหตุการณ์ครั้งนี้จึงจุดกระแสให้มีการถกเถียงถึงประเด็นความเสี่ยงของระบบไฟฟ้าที่พึ่งพาแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งอาจมีความไม่แน่นอนด้านปริมาณการผลิตและความต่อเนื่องในการจ่ายไฟ ส่งผลให้เกิดคำถามถึงเสถียรภาพของระบบพลังงาน

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
– (7.2) เพิ่มสัดส่วนของพลังงานทดแทนในการผสมผสานการใช้พลังงานของโลก ภายในปี 2573
– (7.3) เพิ่มอัตราการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังานของโลกให้เพิ่มขึ้น 2 เท่า ภายในปี 2573
#SDG17 หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.16) ยกระดับหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมเติมเต็มโดยหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายซึ่งจะระดมและแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญเทคโนโลยี และทรัพยากรทางการเงิน เพื่อจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

Author

  • Knowledge Communication | มนุษย์ผู้เชื่อว่า “การสื่อสารสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของกันและกันได้” ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน หรือเผชิญกับอะไรอยู่ การสื่อสารจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวส่งไปให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้

Exit mobile version