วันที่ 4 – 6 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Department of Economic and Social Affairs – UN DESA) และ รัฐบาลกาตาร์ ร่วมมือกันจัดการประชุมสุดยอดระดับโลกว่าด้วยการพัฒนาสังคม ครั้งที่ 2 (Second World Summit for Social Development) ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยมีผู้นำรัฐบาลจาก 40 ประเทศ รัฐมนตรีกว่า 230 คน และภาคส่วนอื่น ๆ อีกกว่า 14,000 คนเข้าร่วม
Annalena Baerbock ประธานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใคร่ครวญอย่างดีจากการระบุช่องว่างไปสู่การลงมือปฏิบัติตามแนวทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว และสัญญาว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะการพัฒนาสังคมไม่ใช่แค่สิ่งที่พึงมี หรือเป็นกิจการกุศล ทว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ทุกประเทศ
Annalena ยังเตือนด้วยว่าความหิวโหยและความยากจนที่ปรากฏทุกวันนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความขาดแคลน แต่เกิดจากความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ และความล้มเหลวทางการเมือง พร้อมเน้นย้ำว่าหนึ่งในปัญหาที่สำคัญไม่ใช่เรื่องเงิน แต่อยู่ที่วิธีการในการลงทุนต่างหาก
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าสำคัญในการประชุมครั้งนี้คือการที่ประเทศต่าง ๆ ได้ให้การรับรอง ‘Doha Political Declaration’ ซึ่งเป็นปฏิญญาทางการเมืองที่มุ่งเร่งรัดความก้าวหน้าทางสังคม ยุติความยากจน และสร้างสังคมที่มีความครอบคลุม เป็นธรรมธรรม และยั่งยืน
สำหรับประเทศไทย กันตพงศ์ รังสีสว่าง ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนรัฐบาลในการเข้าร่วมประชุมข้างต้น โดยได้กล่าวถ้อยแถลงว่าประเทศไทยตระหนักถึงความซับซ้อนของโครงสร้างทางสังคมและประชากร จึงยึดแนวทางการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยให้ครอบครัวและชุมชนเป็นหัวใจของนโยบาย ซึ่งสอดคล้องกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และหลักการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ที่ประเทศไทยได้ดำเนินการผลักดันกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนพิการ ความเสมอภาคระหว่างเพศ และการคุ้มครองทางสังคม โดยมี “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” เป็นกรอบสำคัญในการสร้าง “ความมั่นคงของมนุษย์” ในทุกมิติ
นอกจากนี้ กันตพงศ์ ยังระบุถึงจุดมุ่งเน้นในการพัฒนาสังคมไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่ามี 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) การลดความยากจน โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งเน้นความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการสร้างภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยงทางสังคมและเศรษฐกิจ 2) การส่งเสริมการจ้างงานที่มีคุณค่า โดยสนับสนุนเกษตรกรรมขนาดใหญ่ วิถีชีวิตชนบท และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะดิจิทัลแก่เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ พร้อมทั้งคุ้มครองประชาชนจากการถูกหลอกลวงและการคุกคามทางออนไลน์ และ 3) การส่งเสริม “การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเท่าเทียม” ผ่านแนวคิดการพัฒนาตลอดช่วงชีวิต (Life-Course Approach) เพื่อให้ประชาชนได้รับการสนับสนุนและโอกาสตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ ซึ่งประเทศไทยได้ขยายความครอบคลุมของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และสร้างกลไกการมีส่วนร่วมผ่านศูนย์ครอบครัว สภาเยาวชน และเครือข่ายการดูแลในชุมชน
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– มีอะไรในข้อตกลงเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน “Pact for the Future
– ประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 78 เผยวิสัยทัศน์ก่อนรับตำแหน่ง หวังขับเคลื่อนโลกสู่ “สันติภาพ ความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า และความยั่งยืน”
– SDSN ร่วมกับเครือข่ายจัดการประชุม คู่ขนาน “UNGA 78 & SDG Summit”- สำรวจกิจกรรมที่น่าสนใจประจำปี 2023
– สรุปท่าทีไทยบนเวที UNGA 80 สะท้อนปัญหาสันติภาพ-ความมั่นคง ชูประเด็นสิทธิมนุษยชน สิทธิสตรี และสุขภาพ เพื่อความยั่งยืนทุกมิติ
– ส่องประเด็นสำคัญสำหรับขับเคลื่อน SDGs ของ UNGA ในปี 2568 จากแถลงการณ์ล่าสุดของเลขาธิการ UN
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ยุติความยากจน
– (1.1 ขจัดความยากจนขั้นรุนแรงของประชาชนในทุกพื้นที่ให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งปัจจุบันความยากจนวัดจากคนที่มีค่าใช้จ่ายดำรงชีพรายวันต่ำกว่า $1.90 ต่อวัน
– (1.3 ดำเนินการให้ทุกคนมีระบบและมาตรการการคุ้มครองทางสังคมระดับประเทศที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงฐาน การคุ้มครองทางสังคม (floors) โดยให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรยากจน และกลุ่มเปราะบางให้มากพอ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG2 ยุติความหิวโหย
– (2.1) ยุติความหิวโหยและสร้างหลักประกันให้ทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยากจนและอยู่ในภาวะเปราะบาง อันรวมถึงทารก ได้เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีโภชนาการ และเพียงพอตลอดทั้งปี ภายในปีพ.ศ. 2573
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ
– (10.2 เสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมความครอบคลุมทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ ความพิการ เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ แหล่งกำเนิด ศาสนา สถานะทางเศรษฐกิจ หรืออื่น ๆ ภายในปี พ.ศ. 2573
– (10.3) สร้างหลักประกันถึงโอกาสที่เท่าเทียมและลดความไม่เสมอภาคของผลลัพธ์ รวมถึงโดยการขจัดกฎหมาย นโยบาย และแนวทางปฏิบัติที่เลือกปฏิบัติ และส่งเสริมการออกกฎหมาย นโยบาย และการปฏิบัติที่เหมาะสมในเรื่องดังกล่าว
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.14) ยกระดับความสอดคล้องเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.16) ยกระดับหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยร่วมเติมเต็มหุ้นส่วนความร่วมมือจากภาคส่วนที่หลากหลายซึ่งจะระดมและแบ่งปันความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และทรัพยากรด้านการเงิน เพื่อจะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกประเทศ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
แหล่งที่มา
– Doha summit ends with call to turn social pledges into action (UN)
– ปลัด พม. ร่วมเวทีระดับโลก หนุนประชาคมระหว่างประเทศ พัฒนาสังคมที่ยั่งยืน ย้ำไทย มุ่งลดความยากจนด้วยเศรษฐกิจพอเพียง (MGR Online)

