วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 Quacquarelli Symonds หรือ QS ซึ่งเป็นสถาบันวิเคราะห์และจัดอันดับการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน ประจำปี 2569 (QS Sustainability Rankings 2026) โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือช่วยให้นักศึกษาได้สำรวจถึงความมุ่งมั่นที่จะมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมหาวิทยาลัยทั่วโลก ผ่านข้อมูลที่น่าสนใจ เช่น ผลกระทบที่ศิษย์เก่าดำเนินการในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบของการวิจัยที่มีต่อการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ประการขององค์การสหประชาชาติ
ปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ของการจัดอันดับนี้ มีมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่ร่วมจัดอันดับกว่า 1,994 แห่ง โดยเกณฑ์สำคัญของการจัดอันดับแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. ผลกระทบเชิงสังคม (social impact) คิดเป็น 45% โดยมีตัวชี้วัดย่อย ดังนี้
- ความเท่าเทียม
- การแลกเปลี่ยนความรู้
- ผลกระทบของการจัดการศึกษา
- โอกาสและการจ้างงาน
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
2. ผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อม (environmental impact) คิดเป็น 45% โดยด้วยตัวชี้วัดย่อย ดังนี้
- ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
- การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม
- การค้นคว้าวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม
3. ระบบอภิบาล (governance) คิดเป็น 10% โดยมีตัวชี้วัดย่อย ดังนี้
- ธรรมาภิบาล
มหาวิทยาลัยที่ได้อันดับ Top 10 ระดับโลก ได้แก่
อันดับที่ 1 Lund University (สวีเดน)
อันดับที่ 2 University of Toronto (แคนาดา)
อันดับที่ 3 UCL (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 4 University of Edinburgh (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 5 University of British Columbia (แคนาดา)
อันดับที่ 6 The London School of Economics and Political Science (LSE) (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 7 Imperial College London (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 7 The University of New South Wales (UNSW Sydney) (ออสเตรเลีย)
อันดับที่ 9 McGill University (แคนาดา)
อันดับที่ 10 The University of Manchester (สหราชอาณาจักร)
สำหรับประเทศไทย มีมหาวิทยาลัยที่ติดการจัดอันดับทั้งสิ้น 19 แห่ง ได้แก่
อันดับที่ 165 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (85.5 คะแนน)
อันดับที่ 302 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (77.5 คะแนน)
อันดับที่ 310 มหาวิทยาลัยมหิดล (77 คะแนน)
อันดับที่ 430 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (71.6 คะแนน)
อันดับที่ 467 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (70.3 คะแนน)
อันดับที่ 475 มหาวิทยาลัยสงขลานคนรินทร์ (70 คะแนน)
อันดับที่ 476 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (69.9 คะแนน)
อันดับที่ 490 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (69.2 คะแนน)
อันดับที่ 701 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (61.6 คะแนน)
อันดับที่ 737 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (60.6 คะแนน)
อันดับที่ 927 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) (54.7 คะแนน)
อันดับที่ 942 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (54.1 คะแนน)
อันดับที่ 1001 – 1010 มหาวิทยาลัยนเรศวร
อันดับที่ 1011 – 1020 มหาวิทยาลัยศิลปากร
อันดับที่ 1101 – 1150 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒน์
อันดับที่ 1251 – 1300 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
อันดับที่ 1501+ มหาวิทยาลัยบูรพา/ มหาวิทยาลัยเกริก/ มหาวิทยาลัยพะเยา
หากเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่ามหาวิทยาลัยไทยติดการจัดอันดับเพิ่มขึ้นจาก 18 แห่ง เป็น 19 แห่งในปีนี้ และหากเทียบกับปีแรกคือปี 2023 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว เนื่องจากปีแรกมีมหาวิทยาลัยไทยที่ได้รับการจัดอันดับเพียง 7 แห่งเท่านั้น
เมื่อพิจารณาเฉพาะระดับภูมิภาคเอเชีย พบว่ามีมหาวิทยาลัยได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 822 แห่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นติด Top 10 ของภูมิภาคนี้ ประเทศละ 3 แห่ง โดย Seoul National University (เกาหลีใต้) ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 (อันดับที่ 37 ของโลก) ด้วยคะแนนที่สูงถึง 94.5 คะแนน ขณะที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ในอันดับที่ 15 ของภูมิภาค
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– จุฬาฯ และ มจธ. ติดอันดับ Top 100 ของโลก จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย THE Impact Rankings 2021
– มหาวิทยาลัยจาก ไทย และ ปากีสถาน ส่งผลงาน SDGs เพื่อจัดอันดับ THE Impact Rankings 2022 เพิ่มเท่าตัว
– จุฬาฯ และ มช. ติดอันดับ Top 100 ของโลกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย THE Impact Rankings 2022
– THE Impact Rankings 2023: มหาวิทยาลัยไทยกว่า 9 แห่ง ติด Top 400 ของโลก
– QS Sustainability Rankings 2024 มหาวิทยาลัยไทย 13 แห่ง ได้รับการจัดอันดับ ด้าน University of Toronto คว้าอันดับ 1 ของโลก
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
#SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
#SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
– (4.7) สร้างหลักประกันว่าผู้เรียนทุกคนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมไปถึง การศึกษาสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและการไม่ใช้ความรุนแรง การเป็นพลเมืองของโลก และความชื่นชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการที่วัฒนธรรมมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ
#SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
#SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม อุตสาหกรรม
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
#SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง
– (16.6) พัฒนาสถาบันที่มีประสิทธิผล มีความรับผิดชอบ และโปร่งใสในทุกระดับ
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
แหล่งที่มา : QS World University Rankings: Sustainability 2026

