Site icon SDG Move

คัดมาแล้วว่าดี 5 ภาพยนตร์ สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ได้แค่ดูสนุก แต่ช่วยเปิดมุมมองและทำให้เราเข้าใจความท้าทายของโลก

ก่อนหยุดยาวปีใหม่นี้ เตรียมป๊อปคอร์นให้พร้อม อาจมีสมุดจดสักเล่มข้างกาย แล้วร่วมสำรวจเรื่องราวด้านสภาพภูมิอากาศที่ทรงพลังและคิดต่อไปด้วยกัน SDG Recommends ชวนดู 5 ภาพยนตร์ว่าด้วยสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่ Waterfront Alliance คัดสรรมาแล้วว่าดี ทั้งช่วยเปิดมุมมองและทำให้เข้าใจความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ดูสนุก ชวนติดตาม หรือเรื่องราวที่ช่วยเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับโลกใบนี้ ภาพยนตร์เหล่านี้ล้วนถ่ายทอดจินตนาการและภาพอนาคตที่เรากำลังมุ่งหน้าเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมพลังของการเล่าเรื่องที่ทั้งดึงดูด ให้ความรู้ และจุดประกายให้เกิดการตั้งคำถามและการลงมือทำ 

1 – Flow (2024)
กำกับโดย: Gints Zilbalodis

Flow เล่าเรื่องของแมวตัวหนึ่งที่ต้องเอาชีวิตรอดและเรียนรู้การปรับตัวในโลกซึ่งถูกทำลายจากอุทกภัยครั้งใหญ่ ระหว่างทางเราจะได้ร่วมผจญภัยไปกับแมว สุนัข คาปิบารา ลีเมอร์ และนกเลขานุการ (Secretary Bird) กลุ่มสัตว์ต่างสายพันธุ์ที่พากันล่องเรือสำรวจโลกที่เปลี่ยนไป สะท้อนแนวคิดสำคัญว่าชุมชน และการพึ่งพาซึ่งกันและกัน คือพลังที่สำคัญที่สุดในการฝ่าฟันโลกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมชวนผู้ชมทบทวนบทบาทของการอยู่ร่วมกันท่ามกลางวิกฤตสิ่งแวดล้อม


2 – Extrapolations (2023)
กำกับโดย: Scott Z. Burns

Extrapolations เป็นซีรีส์จาก Apple TV+ ที่พาผู้ชมมองไปยังอนาคตซึ่งจำลองโลกที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นราว 5 องศาฟาเรนไฮต์ และระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการอาศัยของมนุษย์ ซีรีส์ถ่ายทอดให้เห็นว่า “วิกฤตการล่มสลายด้านสภาพภูมิอากาศ” เชื่อมโยงและกระทบต่อทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่ความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เศรษฐกิจ ไปจนถึงโครงสร้างทางสังคม

ความโดดเด่นของเรื่องไม่ใช่เพียงการนำเสนอผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเล่าเรื่องของชุมชนที่พยายามสร้างความเข้มแข็ง ปรับตัว และบางครั้งก็ต้องเผชิญความล้มเหลว เป็นภาพสะท้อนการดำรงอยู่ของมนุษย์ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก


3 – Strange World (2022)
กำกับโดย: Don Hall และ Qui Nguyen

Strange World ใช้การเล่าเรื่องเชิงสัญลักษณ์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสังคมมนุษย์กับการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างชัดเจนและทรงพลัง ภาพยนตร์นำเสนอโลกที่ตั้งอยู่บนสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ เปรียบเสมือนระบบนิเวศที่รองรับการดำรงอยู่ของมนุษย์ ก่อนที่ผู้คนจะตระหนักว่าแหล่งพลังงานซึ่งสังคมพึ่งพาอยู่นั้น แท้จริงแล้วคือสิ่งที่ค่อย ๆ บ่อนทำลายชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่รองรับโลกใบนี้ แม้สังคมจะพึ่งพาพลังงานเหล่านี้มาอย่างยาวนาน แต่ท้ายที่สุดก็เลือกปกป้องสิ่งมีชีวิตและตัดสินใจหยุดใช้แหล่งพลังงานนั้น เรื่องราวจึงสะท้อนการเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม 


4 – Dune (2021)
กำกับโดย: Denis Villeneuve

Dune ถ่ายทอดจินตนาการเกี่ยวกับพลวัตของสภาพภูมิอากาศในระดับจักรวาลได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมชวนตั้งคำถามถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่ล้ำอนาคต ซึ่งอาจถูกนำมาใช้เพื่อ “ปรับสภาพดาวทั้งดวง” (terraforming) ให้มนุษย์สามารถอยู่อาศัยได้ ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ถือว่าล้ำยุคมาโดยตลอด ในการสะท้อนแนวคิดเรื่องความคิดว่ามนุษย์มีสิทธิครอบครองระบบนิเวศ ตลอดจนการละเลยและบั่นทอนรูปแบบการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติที่เดิมที่อาศัยมาก่อน


5 – Wild Relatives (2017)
กำกับโดย: Jumana Manna

Wild Relatives เป็นสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวของการถอนเมล็ดพันธุ์ครั้งแรกจากอุโมงค์เก็บรักษาเมล็ดพันธุ์แห่งสวาลบาร์ด (Svalbard Global Seed Vault) สถานที่เก็บรวบรวมเมล็ดพันธุ์พืชที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามในซีเรีย ภาพยนตร์สะท้อนให้เห็นบทบาทอันสำคัญของธนาคารเมล็ดพันธุ์โลก ในการปกป้องพืชอาหารของมนุษยชาติจากภัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางการเมือง หรือโรคระบาด ภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบเสมือนแสงแห่งความหวัง ที่ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของธนาคารเมล็ดพันธุ์ในฐานะเครื่องมือสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูชีวิตท่ามกลางหายนะและการทำลายล้าง

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
– (2.5)  คงความหลากหลายทางพันธุกรรมของเมล็ดพันธุ์พืชที่ใช้เพาะปลูก สัตว์ในไร่นาและที่เลี้ยงตามบ้านเรือน และชนิดพันธุ์ตามธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับพืชและสัตว์เหล่านั้น รวมถึงให้มีธนาคารพืชและเมล็ดพันธุ์ที่มีการจัดการที่ดีและมีความหลากหลาย ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ และสร้างหลักประกันว่าจะมีการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์อันเกิดจากการใช้ทรัพยากรทางพันธุกรรมและองค์ความรู้ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ตามที่ตกลงกันระหว่างประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2563
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
– (7.a) ยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการวิจัย และเทคโนโลยีพลังงานที่สะอาด โดยรวมถึงพลังงานหมุนเวียน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเทคโนโลยีเชื้อเพลิงฟอสซิลชั้นสูงและสะอาด และสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและเทคโนโลยีพลังงานที่สะอาด ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน
– (11.5) ลดจำนวนการตายและจำนวนคนที่ได้รับผลกระทบและลดการสูญเสียโดยตรงทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของโลกที่เกิดจากภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงภัยพิบัติที่เกี่ยวกับน้ำ โดยมุ่งเป้าปกป้องคนจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง ภายในปี 2573
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
– (13.1) เสริมภูมิต้านทานและขีดความสามารถในการปรับตัวต่ออันตรายและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในทุกประเทศ
– (13.2) บูรณาการมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการวางแผนระดับชาติ
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
– (15.5) ปฏิบัติการที่จำเป็นและเร่งด่วนเพื่อลดการเสื่อมโทรมของถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ หยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และภายในปี 2563 ปกป้องและป้องกันการสูญพันธุ์ของชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคาม


แหล่งที่มา: Climate on the Big Screen: Must-Watch Films & Series About Our Planet (Waterfront Alliance)

Author

  • Knowledge Communication | มนุษย์ผู้เชื่อว่า “การสื่อสารสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของกันและกันได้” ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน หรือเผชิญกับอะไรอยู่ การสื่อสารจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวส่งไปให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้

Exit mobile version