4 ประเทศลาตินอเมริกา ประกาศ “แนวระเบียงพื้นที่คุ้มครองทางทะเลแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก” มากกว่า 500,000 ตร.กม.

สัปดาห์นี้ 4 ประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก ได้แก่ ปานามา เอกวาดอร์ โคลัมเบีย และคอสตาริกา ประกาศข้อริเริ่ม “แนวระเบียงพื้นที่คุ้มครองทางทะเลแปซิฟิกเขตร้อนตะวันออก” (Eastern Tropical Pacific Marine Corridor – CMAR) เชื่อมพื้นที่มหาสมุทรที่มีอาณาเขตติดต่อกัน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของแต่ละประเทศแต่เดิม และเป็นพื้นที่ที่มีการโยกย้ายถิ่นฐานของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อาทิ เต่า ปลาวาฬ และฉลาม ให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Marine Protected Areas – MPAs) ขนาดใหญ่ – ปลอดการจับปลาทำการประมง โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 500,000 ตารางกิโลเมตร ทำให้ CMAR เป็นหนึ่งในพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพแห่งหนึ่งในโลก

“นี่ถือว่าเป็นการอนุรักษ์ระดับโลกแห่งใหม่ ไม่เคยมีประเทศไหนที่มีพื้นที่ทางทะเลติดต่อกันแล้วจะมาจับมือกันเพื่อผลักดันนโยบายสาธารณะ” – Gustavo Manrique รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมเอกวาดอร์

โดยการเดินหน้าในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลและมหาสมุทรในภูมิภาคกำลังเผชิญกับการถูกแสวงหาประโยชน์จากการทำประมงโดยต่างชาติ และหวังว่าข้อริเริ่มดังกล่าวจะเป็นการจำกัดและป้องกันไม่ให้มีการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing – IUU)

แรกเริ่มนั้นมากจากการที่ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ Guillermo Lasso ประกาศขยายพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล Galápagos จาก 133,000 ตารางกิโลเมตร เพิ่มขึ้นอีก 60,000 ตารางกิโลเมตร ตามมาด้วยประธานาธิบดีโคลัมเบีย Iván Duque ที่ออกมาประกาศเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลอีก 160,000 ตารางกิโลเมตร จากเดิมที่มีอยู่ 120,000 ตารางกิโลเมตร

โดยประธานาธิบดีเอกวาดอร์ระบุว่า การดำเนินการของเอกวาดอร์ในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลเอง หลังจากที่ได้มีการหารือกับชาวประมงรายย่อยและชาวประมงในภาคอุตสาหกรรมใหญ่เป็นเวลากว่า 5 เดือน ด้านรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของเอกวาดอร์ ระบุว่า แม้ว่า “เรา” จะเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่พึ่งพาการทำการประมงขนาดใหญ๋ ถือว่าเป็นหนึ่งในรายใหญ่ที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิกก็ว่าได้ แต่ก็ได้ตัดสินใจที่จะลดการทำประมงลง

Max Bello ที่ปรึกษาด้านนโยบายที่เกี่ยวกับทะเลจากองค์กรไม่แสวงผลกำไร Mission Blue มองว่า ข้อริเริ่มของภูมิภาคอเมริกาใต้ในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงบทบาทนำของภูมิภาคในด้านความพยายามอนุรักษ์และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลและมหาสมุทรอีกครั้งสำคัญ แต่เป้าหมายของการอนุรักษ์นั้นจะไปถึงได้ นานาประเทศที่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเลและมหาสมุทรควรดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์ด้วย ให้อย่างน้อยที่สุดรวมกันแล้วคิดเป็นการอนุรักษ์ 30% ตามข้อเสนอเป้าหมายการปกป้องและอนุรักษ์ “30×30” – 30% ผืนดิน และ 30% ทะเลและมหาสมุทร ภายในปี 2573

● อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
นักสิ่งแวดล้อมและนักสิทธิฯ เรียกร้องให้ “30×30” ในกรอบ COP15 ใช้แนวทางสิทธิมนุษยชนเป็นศูนย์กลาง
จังหวัดปาปัวตะวันตกคงความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลได้ดีขึ้น เพราะการกำหนดพื้นที่คุ้มครองและบทบาทนำของชุมชนรอบชายฝั่ง
อินโดนีเซียประเมินประชากรสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ในเขตประมงทั่วประเทศ เพื่อวางแผนการประมงและอนุรักษ์สัตว์น้ำได้ยั่งยืนขึ้น

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG14 ทะเลและทรัพยากรทางทะเลและมหาสมุทร
-(14.2) บริหารจัดการและปกป้องระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบที่มีนัยสำคัญ รวมถึงโดยการเสริมภูมิต้านทานและปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟู เพื่อบรรลุการมีมหาสมุทรที่มีสุขภาพดีและมีผลิตภาพ ภายในปี 2563
-(14.4) ให้กำกับอย่างมีประสิทธิผลในเรื่องการเก็บเกี่ยวและยุติการประมงเกินขีดจำกัด การประมงที่ผิดกฎหมาย ที่ไม่มีการรายงาน และที่ไม่มีการควบคุม และแนวปฏิบัติด้านการประมงที่เป็นไปในทางทำลาย และดำเนินการให้เป็นผลตามแผนการบริหารจัดการที่อยู่บนฐานวิทยาศาสตร์ เพื่อจะฟื้นฟูประชากรปลา (fish stock) ในเวลาที่สั้นที่สุดที่จะเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดในระดับที่สามารถไปถึงจุดสูงสุดที่ให้ผลตอบแทนแบบยั่งยืน (maximum sustainable yield) ตามคุณลักษณะทางชีววิทยาของสัตว์น้ำเหล่านั้น ภายในปี 2563
-(14.5) อนุรักษ์พื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งอย่างน้อยร้อยละ 10 ให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศและภายในประเทศ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ภายในปี 2563

แหล่งที่มา:
Latin American countries join reserves to create vast marine protected area (The Guardian)

Author

  • Thiraphon Singlor

    Editor | อยากรู้ความคิดของคนต่างพื้นเพ ต่างสังคมและวัฒนธรรม สนใจความเป็นไปของโลก ความมั่นคง และการพัฒนา แล้วนำมาถ่ายทอดร้อยเรียงเรื่องราวเล่าให้ฟัง

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น