SDG Updates | SDG Index ของจังหวัดในภาคตะวันออก: สถานะรายเป้าหมายและข้อค้นพบรายตัวชี้วัด

ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือ กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และคณะทำงานระดับภาคทั้ง 6 ภาค ได้แก่ เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก ใต้ และใต้ชายแดน เผยเเพร่ SDG Index ระดับจังหวัดของประเทศไทย โดยข้อมูลชุดนี้เป็นผลจากการวิจัย ภายใต้โครงการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน หรือ “Area Needมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นฐานข้อมูลตั้งต้นแก่ สกสว. สำหรับวางเเผนดำเนินการระบบวิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (ววน.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับพื้นที่ โดยไม่ได้สภาพบังจังหวัดใดเป็นการเฉพาะ

โดยศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายภาควิชาการในภาคต่าง ๆ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในระดับภาคในแต่ละภาค ซึ่งสะท้อนถึงการบูรณาการบทบาทและความร่วมมือระหว่าง สกสว. และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน


00 – ข้อควรทราบก่อนอ่านรายงาน

  • กระบวนการสำคัญของ Area Need 3 คือการจัดทำ ‘ดัชนีการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับจังหวัด’ หรือที่เรียกว่า Provincial SDG Index’ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวัดและติดตามความก้าวหน้าด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ ผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการวิเคราะห์ช่องว่างของข้อมูล ผ่านกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อนำเสนอข้อมูลความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับภูมิภาคและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับพื้นที่ ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • การประเมินสถานะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ผ่านการใช้ข้อมูลทุติยภูมิในระดับภายในประเทศ (sub-national) เพื่อการประเมินสถานะของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รายจังหวัดหรือเมืองในประเทศ โดยในต่างประเทศ มีการใช้ SDG Index ในการประเมินระดับเมืองและระดับรัฐมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมาในหลายประเทศ ดำเนินการโดยเครือข่าย SDSN Thailand  นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีการใช้ข้อมูลทุติยภูมิประเมินสถานการณ์ในประเทศที่สอดคล้องกับ SDGs โดยงานที่สำคัญคืองานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่พัฒนาตัวชี้วัดการพัฒนาระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในปี พ.ศ. 2564 ที่จัดระบบตามแบบ 5Ps (People Prosperity Planet Peace และ Partnership) และงานที่โครงการพัฒนาเเห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทำร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในการจัดทำ Provincial SDG Profile ในปี พ.ศ. 2566
  • การจัดทำ SDG Index ระดับจังหวัด เบื้องต้นเน้นใช้ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากมีตัวชี้วัดระดับจังหวัดอื่นที่สอดคล้องกับเป้าหมายย่อยของ SDGs แม้ไม่ถูกรวมอยู่ในดัชนีสากล ก็อาจพิจารณานำมาบรรจุเพิ่มเติมได้ เหตุผลสำคัญคือ การยกระดับคะแนนและสถานะของประเทศไทยในดัชนีสากล จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่สะท้อนสถานการณ์จริงภายในประเทศอย่างครบถ้วน การมีตัวชี้วัดที่เชื่อมโยงทั้งระดับสากลและระดับพื้นที่ จะช่วยให้สามารถระบุปัญหาเชิงพื้นที่ได้ชัดเจนและจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสถานะตัวชี้วัดเหล่านั้นต่อไป
  • วิธีการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี มี 3 ขั้นตอน ได้แก่
  1. การทบทวนวรรณกรรม (literature review): ดำเนินการสำรวจและรวบรวมตัวชี้วัดจากหลายแหล่ง ได้แก่ SDG Index, รายงานความยั่งยืนระดับกลุ่มจังหวัด, SDG Profile, และรายงานสถานะตัวชี้วัดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ พ.ศ. 2566 จากนั้นจึงทำการคัดเลือกตัวชี้วัดที่เหมาะสม พร้อมกำหนด Proxy Indicator และระบุตัวชี้วัดที่จะใช้ในโครงการ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายการตัวชี้วัดระดับจังหวัดของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับตัวชี้วัดของดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลพร้อมทั้งระบุข้อมูลของตัวชี้วัดทั้งหน่วยงานเจ้าของข้อมูล รอบของการจัดเก็บและรายงาน
  2. การรวบรวมข้อมูล (data collection): ดำเนินการดึงข้อมูลหรือขอความอนุเคราะห์ข้อมูลระดับจังหวัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์และค่าเป้าหมายต่าง ๆ ข้อมูลดิบตามรายการที่จัดทำไว้ในข้อแรก โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น ฐานข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และการประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นให้ได้ข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี หากสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 จะเป็นประโยชน์สูงสุด เนื่องจากช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแสดงแนวโน้มของสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล (data processing and analysis): รวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดลงในเทมเพลตการคำนวณ จากนั้นจึง normalization ค่าข้อมูลให้อยู่ในช่วง 0 ถึง 100 และคำนวณ ค่าเฉลี่ยตามเป้าหมาย ทั้งในระดับจังหวัดและระดับภาค พร้อมระบุประเด็นท้าทายของแต่ละจังหวัด สำหรับการกำหนดระดับสีของตัวชี้วัด จะใช้กระบวนการทางสถิติในการจัดกลุ่มข้อมูล โดยพิจารณารายการตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ค่าต่ำสุด และค่าที่ใช้ในการแบ่งระดับสี

01 ภาพรวม SDG Index ของภาคตะวันออก

คะแนน SDG Index เฉลี่ยของภาคตะวันออกอยู่ที่ 58.05 คะแนน แสดงถึงระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยรวมของภาคที่อยู่ในระดับปานกลาง โดยจังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่มีคะแนนสูงสุดในภาค เท่ากับ 62.20 คะแนน แสดงถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนจังหวัดจันทบุรี และฉะเชิงเทรา มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาคแสดงถึงความพยายามในการพัฒนาที่ยั่งยืน จังหวัดปราจีนบุรีมีคะแนนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภาค แสดงถึงระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับปานกลาง  ขณะที่จังหวัดนครนายก ระยอง ชลบุรี และสระแก้ว มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภาค แสดงถึงความจำเป็นในการเร่งการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจังหวัดสระแก้ว มีคะแนนต่ำสุดในภาค เท่ากับ 49.82 คะแนน แสดงถึงความท้าทายในการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างมาก

  • คำอธิบายสีสถานะ
    • เขียว – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เหลือง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • ส้ม – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างต้องปรับปรุงเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • แดง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วนเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เทา – ไม่มีข้อมูล

ด้านสถานะผลการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ระดับจังหวัดในภาคตะวันออกสะท้อนให้เห็นถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้ 

  • โดยรวมภาคตะวันออกมีผลการดำเนินงานที่ก้าวหน้า แต่ยังคงมีความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในมิติด้านสังคม (SDG 2 – 5) มิติด้านสันติภาพและสถาบัน (SDG 16) มิติด้านหุ้นส่วนการพัฒนา (SDG 17) และมิติด้านสิ่งแวดล้อมในบางประเด็น (SDG 12) ประเด็นเหล่านี้บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการเร่งดำเนินการและกำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบ 
  • ภาคตะวันออกมีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดี ในมิติที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านเศรษฐกิจ (SDG 8 -11) ด้านสิ่งแวดล้อม (SDG 13, 15) รวมถึงประเด็นด้านความยากจน (SDG 1) 
  • สถานะการบรรลุเป้าหมาย SDGs ของแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด บางจังหวัดมีความก้าวหน้าในบางเป้าหมาย ขณะที่บางเป้าหมายต้องปรับปรุงเร่งด่วนเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น 

เมื่อนำคะแนน SDG Index รายตัวชี้วัดมาหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายของแต่ละจังหวัดเพื่อหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายหมายของภาคตะวันออก พบว่าเป้าหมายที่ได้คะแนนสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 13 มีคะแนน 82.91 คะแนน SDG 15 มีคะแนน 79.12 คะแนน SDG 16 มีคะแนน 70.64 คะแนน SDG 6 มีคะแนน 70.45 คะแนน และ SDG 1 มีคะแนน 66.89 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเป้าหมายที่มีคะแนนสูงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความครอบคลุมทางสังคม

ขณะที่เป้าหมายที่ได้คะแนนต่ำที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 17 มีคะแนน 32.48 คะแนน SDG 4 มีคะแนน 38.52 คะแนน SDG 9 มีคะแนน 43.05 คะแนน SDG 2 มีคะแนน 48.44  และ SDG 7 มีคะแนน 51.45 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเป้าหมายที่มีคะแนนต่ำส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านกลไกด้านความร่วมมือและโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงอุตสาหกรรม


02 ข้อค้นพบรายตัวชี้วัดของภาคตะวันออก

เมื่อพิจารณาในเชิงตัวชี้วัด พบว่าภาคตะวันออกมีประเด็นที่สะท้อนความก้าวหน้าในการดำเนินงาน และประเด็นที่ยังคงมีความเสี่ยงหรือข้อท้าทาย ดังนี้

ประเด็นที่มีความก้าวหน้าในการดำเนินงาน ได้แก่ 

  • ประเด็นพื้นที่เกษตรที่มีการทำการเกษตรแบบยั่งยืน (SDG 2)  
  • ประเด็นความครอบคลุมสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ  (SDG 3)
  • ประเด็นครัวเรือนที่มีน้ำดื่มสะอาด (SDG 6)
  • ประเด็นจำนวนการเผาไหม้ในเขตชุมชน (SDG 11) 
  • ประเด็นปริมาณขยะ E-Waste (SDG 12)
  • ประเด็นปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการอุตสาหกรรม (SDG 12)
  • ประเด็นจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ (SDG 13)  
  • ประเด็นพื้นที่เผาไหม้ในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ (SDG 15)
  • ประเด็นจำนวนชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยต่อจำนวนประชากรแสนคน (SDG 15)
  • ประเด็นจำนวนคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ (SDG 16)

ประเด็นที่มีความเสี่ยงในการดำเนินงาน ได้แก่

  • ประเด็นความชุกของภาวะอ้วน (SDG 2) 
  • ประเด็นจำนวนผู้ที่ได้รับการรับรอง GAP (Good Agricultural Practices) ตามโรคพืช  (SDG 2) 
  • ประเด็นผลผู้ป่วยวัณโรคที่ขึ้นทะเบียนต่อประชากรแสนคน (SDG 3) 
  • ประเด็นผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่อประชากรแสนคน (SDG 3) 
  • ประเด็นผลคะแนนสอบ O-NET ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 (SDG 4) 
  • ประเด็นบทความ/งานวิจัยที่เผยแพร่ในฐานข้อมูล Scopus (SDG 9) 
  • ประเด็นครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดที่มีความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย (SDG 11) 
  • ประเด็นอัตราส่วนพื้นที่สีเขียว ต่อประชากร (SDG 11) 
  • ประเด็นจำนวนโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Green Hotel (SDG 12)

จากข้อค้นพบรายตัวชี้วัด สะท้อนให้เห็นว่าภาคตะวันออกมีความก้าวหน้าในบางด้านของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมและความครอบคลุมทางสังคม แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายสำคัญในด้านกลไกด้านความร่วมมือ โครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม ซึ่งต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน


03 – จังหวัดที่มีคะแนนและอันดับน่าสนใจ

ตารางแสดงผลคะแนนจังหวัด โดยเปรียบเทียบลำดับทั้งในระดับภูมิภาคและประเทศของภาคตะวันออก

อันดับภาคอันดับประเทศคะแนนจังหวัด
1262.20ตราด
2361.73จันทบุรี
3760.21ฉะเชิงเทรา
41658.06ปราจีนบุรี
51857.86นครนายก
61957.61ระยอง
72656.94ชลบุรี
86649.82สระแก้ว
ที่มา: SDG Move และ สกสว. (2568)

เมื่อพิจารณาจากลำดับและคะแนนภาคตะวันออกทั้ง 8 จังหวัด พบว่าจังหวัดที่มีผลคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ตราด (62.20 คะแนน) อันดับที่ 2 จันทบุรี (61.73 คะแนน) และอันดับที่ 3 ฉะเชิงเทรา  (60.21 คะแนน) อันดับที่ 4 ปราจีนบุรี (58.06 คะแนน)  และ อันดับที่ 5 นครนายก (57.86 คะแนน)

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่าสาเหตุที่จังหวัดตราด ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออก เนื่องจากมีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี (สีเหลือง) มากถึง 3 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) SDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) และ SDG 15 (ระบบนิเวศบนบก)

ขณะที่ 3 อันดับสุดท้ายจังหวัดที่มีผลคะแนนต่ำสุดของภาคตะวันออก ได้แก่ อันดับสุดท้าย อันดับที่ 8 สระแก้ว (49.82 คะแนน) อันดับที่ 7 ชลบุรี (56.94 คะแนน)  และอันดับที่ 6 ระยอง (57.61 คะแนน)  

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่าสาเหตุที่จังหวัดสระแก้ว ถูกจัดอยู่อันดับท้ายสุดของภาค เนื่องจากเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานต้องปรับปรุงเร่งด่วน (สีแดง) ถึง 4 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 2 (ยุติความหิวโหย) SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) SDG 12 (การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน) และ SDG 15 (ระบบนิเวศบนบก) ขณะที่เป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานต้องปรับปรุง (สีส้ม) มากถึง 9 เป้าหมาย ได้แก่  SDG 1 (ยุติความยากจน) SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) SDG 6 (น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล) SDG 7 (พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้) SDG 9 (โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม)  SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) SDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) SDG 13 (การรรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ SDG 16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง) ส่วนเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี (สีเหลือง) เพียง 3 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) 

ดังนั้น จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าภาคตะวันออกมีเพียง 2 จาก 8 จังหวัด ที่มีคะแนน SDG Index ในระดับสูง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความจำเป็นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความแตกต่างในการเข้าถึงทรัพยากร โอกาส และบริการพื้นฐาน

บทความถัดไป SDG Move จะนำเสนอรายละเอียดของ SDG Index รายจังหวัดตามกลุ่มภูมิภาค พร้อมทั้งเชื่อมโยงให้เห็นในระดับเป้าหมายว่าจังหวัดต่าง ๆ มีความก้าวหน้าหรือท้าทายในเป้าหมายใดเป็นการเฉพาะบ้าง  ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำไปต่อยอดเชิงนโยบายและการปฏิบัติร่วมกันได้

อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Area Need : ที่นี่


แพรวพรรณ ศิริเลิศ – บรรณาธิการ
อติรุจ ดือเระ – พิสูจน์อักษร
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ

ซีรีส์ Area Need จะสรุปข้อค้นพบสำคัญของโครงการปีที่ 1 - 2 และอัปเดตสิ่งที่เรากำลังทำต่อในปีที่ 3 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

Author

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น