SDG Updates | SDG Index ของจังหวัดในภาคใต้: สถานะรายเป้าหมายและข้อค้นพบรายตัวชี้วัด

ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือ กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และคณะทำงานระดับภาคทั้ง 6 ภาค ได้แก่ เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก ใต้ และใต้ชายแดน เผยเเพร่ SDG Index ระดับจังหวัดของประเทศไทย โดยข้อมูลชุดนี้เป็นผลจากการวิจัย ภายใต้โครงการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน หรือ “Area Needมีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นฐานข้อมูลตั้งต้นแก่ สกสว. สำหรับวางเเผนดำเนินการระบบวิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม (ววน.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับพื้นที่ โดยไม่ได้สภาพบังจังหวัดใดเป็นการเฉพาะ

โดยศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายภาควิชาการในภาคต่าง ๆ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในระดับภาคในแต่ละภาค ซึ่งสะท้อนถึงการบูรณาการบทบาทและความร่วมมือระหว่าง สกสว. และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน


00 – ข้อควรทราบก่อนอ่านรายงาน

  • กระบวนการสำคัญของ Area Need 3 คือการจัดทำ ‘ดัชนีการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับจังหวัด’ หรือที่เรียกว่า Provincial SDG Index’ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวัดและติดตามความก้าวหน้าด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ ผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการวิเคราะห์ช่องว่างของข้อมูล ผ่านกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อนำเสนอข้อมูลความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับภูมิภาคและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับพื้นที่ ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • การประเมินสถานะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ผ่านการใช้ข้อมูลทุติยภูมิในระดับภายในประเทศ (sub-national) เพื่อการประเมินสถานะของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รายจังหวัดหรือเมืองในประเทศ โดยในต่างประเทศ มีการใช้ SDG Index ในการประเมินระดับเมืองและระดับรัฐมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมาในหลายประเทศ ดำเนินการโดยเครือข่าย SDSN Thailand  นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีการใช้ข้อมูลทุติยภูมิประเมินสถานการณ์ในประเทศที่สอดคล้องกับ SDGs โดยงานที่สำคัญคืองานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่พัฒนาตัวชี้วัดการพัฒนาระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในปี พ.ศ. 2564 ที่จัดระบบตามแบบ 5Ps (People Prosperity Planet Peace และ Partnership) และงานที่โครงการพัฒนาเเห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทำร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ในการจัดทำ Provincial SDG Profile ในปี พ.ศ. 2566
  • การจัดทำ SDG Index ระดับจังหวัด เบื้องต้นเน้นใช้ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากมีตัวชี้วัดระดับจังหวัดอื่นที่สอดคล้องกับเป้าหมายย่อยของ SDGs แม้ไม่ถูกรวมอยู่ในดัชนีสากล ก็อาจพิจารณานำมาบรรจุเพิ่มเติมได้ เหตุผลสำคัญคือ การยกระดับคะแนนและสถานะของประเทศไทยในดัชนีสากล จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่สะท้อนสถานการณ์จริงภายในประเทศอย่างครบถ้วน การมีตัวชี้วัดที่เชื่อมโยงทั้งระดับสากลและระดับพื้นที่ จะช่วยให้สามารถระบุปัญหาเชิงพื้นที่ได้ชัดเจนและจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสถานะตัวชี้วัดเหล่านั้นต่อไป
  • วิธีการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี มี 3 ขั้นตอน ได้แก่
  1. การทบทวนวรรณกรรม (literature review): ดำเนินการสำรวจและรวบรวมตัวชี้วัดจากหลายแหล่ง ได้แก่ SDG Index, รายงานความยั่งยืนระดับกลุ่มจังหวัด, SDG Profile, และรายงานสถานะตัวชี้วัดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ พ.ศ. 2566 จากนั้นจึงทำการคัดเลือกตัวชี้วัดที่เหมาะสม พร้อมกำหนด Proxy Indicator และระบุตัวชี้วัดที่จะใช้ในโครงการ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายการตัวชี้วัดระดับจังหวัดของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับตัวชี้วัดของดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลพร้อมทั้งระบุข้อมูลของตัวชี้วัดทั้งหน่วยงานเจ้าของข้อมูล รอบของการจัดเก็บและรายงาน
  2. การรวบรวมข้อมูล (data collection): ดำเนินการดึงข้อมูลหรือขอความอนุเคราะห์ข้อมูลระดับจังหวัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์และค่าเป้าหมายต่าง ๆ ข้อมูลดิบตามรายการที่จัดทำไว้ในข้อแรก โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น ฐานข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และการประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นให้ได้ข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี หากสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 จะเป็นประโยชน์สูงสุด เนื่องจากช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแสดงแนวโน้มของสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล (data processing and analysis): รวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดลงในเทมเพลตการคำนวณ จากนั้นจึง normalization ค่าข้อมูลให้อยู่ในช่วง 0 ถึง 100 และคำนวณ ค่าเฉลี่ยตามเป้าหมาย ทั้งในระดับจังหวัดและระดับภาค พร้อมระบุประเด็นท้าทายของแต่ละจังหวัด สำหรับการกำหนดระดับสีของตัวชี้วัด จะใช้กระบวนการทางสถิติในการจัดกลุ่มข้อมูล โดยพิจารณารายการตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ค่าต่ำสุด และค่าที่ใช้ในการแบ่งระดับสี

01 ภาพรวม SDG Index ของภาคใต้

คะแนน SDG Index เฉลี่ยของภาคใต้อยู่ที่ 55.23 แสดงถึงระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยรวมของภาคที่อยู่ในระดับปานกลาง โดยจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีคะแนนสูงสุดในภาค เท่ากับ 59.92 คะแนน แสดงถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนจังหวัดกระบี่ พังงา ชุมพร ตรัง มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาค แสดงถึงความพยายามในการพัฒนาที่ยั่งยืน เเละจังหวัดภูเก็ต มีคะแนนใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภาค แสดงถึงระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับปานกลาง 

ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง มีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภาค แสดงถึงความจำเป็นในการเร่งพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจังหวัดพัทลุงมีคะแนนต่ำสุดในภาค เท่ากับ 50.17  คะแนน แสดงถึงความท้าทายในการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างมาก

  • คำอธิบายสีสถานะ
    • เขียว – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เหลือง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • ส้ม – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างต้องปรับปรุงเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • แดง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วนเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เทา – ไม่มีข้อมูล

ด้านสถานะผลการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ระดับจังหวัดในภาคใต้ สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้ 

  • สถานะผลการดำเนินงานโดยรวม ภาคใต้ยังคงมีความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะมิติด้านสังคม (SDG 1 – 5) สิ่งแวดล้อม (SDG 6 และ 14 – 15)  เศรษฐกิจ (SDG 7 – 11) มิติด้านหุ้นส่วนการพัฒนา (SDG 17) โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติด้านสิ่งแวดล้อม (SDG 12) และสันติภาพและสถาบัน (SDG 16) ที่มีผลการดำเนินงานที่ท้าทายมากเป็นพิเศษ สะท้อนถึงความจำเป็นในการเร่งดำเนินการและกำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบ 
  • ภาคใต้มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดีในมิติด้านสภาพภูมิอากาศ (SDG 13) 
  • สถานะการบรรลุเป้าหมาย SDGs ของแต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยบางจังหวัดมีความก้าวหน้าในบางเป้าหมาย ขณะที่บางเป้าหมายต้องปรับปรุงเร่งด่วนเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น

เมื่อนำคะแนน SDG Index รายตัวชี้วัดมาหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายของแต่ละจังหวัดเพื่อหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายหมายของภาคใต้ พบว่าสำหรับภาคใต้ เป้าหมายที่ได้คะแนนสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 15 มี 78.07 คะแนน SDG 13  มี 75.54 คะแนน SDG 14 มี 69.14 คะแนน SDG 7 มี 63.30 คะแนน และ SDG 16 มี 61.35 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเป้าหมายที่มีคะแนนสูงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และความเท่าเทียมในสังคม

ขณะที่เป้าหมายที่ได้คะแนนต่ำที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 17 มี 29.08 คะแนน SDG 4 มี 37.91 คะแนน SDG 9 มี 43.79 คะแนน SDG 5 มี 47.00 และ SDG 1 มี 48.22 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า เป้าหมายที่มีคะแนนต่ำอย่างชัดเจน คือคะแนนด้านกลไกความร่วมมือ นอกจากประเด็นข้างต้น ภาคใต้ยังควรส่งเสริมเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ การพัฒนาอุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน การขจัดความยากจน และการพัฒนาคุณภาพการศึกษา


02 – ข้อค้นพบรายตัวชี้วัดของภาคใต้

การศึกษาเมื่อพิจารณาในเชิงตัวชี้วัด พบว่าภาคใต้มีประเด็นที่สะท้อนความก้าวหน้าในการดำเนินงานและประเด็นที่ยังคงมีความเสี่ยงหรือข้อท้าทาย ดังนี้

ประเด็นที่มีความก้าวหน้าในการดำเนินงาน ได้แก่ 

  • ประเด็นพื้นที่เกษตรที่มีการทำการเกษตรแบบยั่งยืน (SDG 2)
  • ประเด็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร (SDG 2) 
  • ประเด็นความครอบคลุมสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ (SDG 3) 
  • ประเด็นดัชนีความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) 
  • ประเด็นความเข้มข้นของ PM2.5 (SDG 11)
  • ประเด็นจำนวนการเผาไหม้ในเขตชุมชน (SDG 11) 
  • ประเด็นจำนวนที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ (SDG 13) 
  • ประเด็นคุณภาพน้ำทะเลและมูลค่าปลาเบญจพรรณขึ้นท่าต่อตัน (SDG 14)  
  • ประเด็นจำนวนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นและพื้นที่เผาไหม้ในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ (SDG 15) 
  • ประเด็นจำนวนชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยต่อจำนวนประชากรแสนคน (SDG 16)
  • ประเด็นจำนวนจำนวนคดีค้ามนุษย์ (SDG 16)

ประเด็นที่มีความเสี่ยงในการดำเนินงาน ได้แก่

  • ประเด็นความชุกของภาวะอ้วน (SDG 2) 
  • ประเด็นจำนวนผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศต่อประชากรแสนคน (SDG 3) 
  • ประเด็นผลคะแนนสอบ O-NET ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 (SDG 4) 
  • ประเด็นสัดส่วนที่นั่งสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นผู้หญิง (SDG 5) 
  • ประเด็นจำนวนบทความ/งานวิจัยที่เผยแพร่ในฐานข้อมูล Scopus (SDG 9) 
  • ประเด็นพื้นที่สีเขียวต่อประชากร (SDG 11) 
  • ประเด็นผลจัดเก็บภาษีอากรรายจังหวัด ต่อ GPP (SDG 17)

จากข้อค้นพบรายตัวชี้วัดของภาคใต้ สะท้อนให้เห็นว่าโดยรวมภาคใต้ มีความก้าวหน้าในบางด้านของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และความเท่าเทียมในสังคม แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายสำคัญในด้านกลไกความร่วมมือซึ่งต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วน


03 – จังหวัดที่มีคะแนนและอันดับน่าสนใจ

ตารางแสดงผลคะแนนจังหวัด โดยเปรียบเทียบลำดับทั้งในระดับภูมิภาคและประเทศของภาคใต้

อันดับภาคอันดับประเทศคะแนนจังหวัด
1859.92สงขลา
21358.36ตรัง
31558.20พังงา
42557.09ชุมพร
52657.02กระบี่
63955.07ภูเก็ต
74254.72สตูล
84654.17สุราษฎร์ธานี
95751.51นครศรีธรรมราช
105951.26ระนอง
116550.17พัทลุง

ที่มา: SDG Move และ สกสว. (2568)

เมื่อพิจารณาจากลำดับและคะแนนภาคใต้ทั้ง 11 จังหวัด พบว่าจังหวัดที่มีผลคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 สงขลา 59.92 คะแนน อันดับ 2 ตรัง 58.36 คะแนน และอันดับ 3 พังงา 58.20 คะแนนอันดับ 4 ชุมพร 57.09 คะแนน  และ อันดับ 5 กระบี่  57.02 คะแนน

เมื่อวิเคราะห์ข้อค้นพบตามรายตัวชี้วัด พบว่า จังหวัดสงขลา ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ เนื่องจากมีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี (สีเหลือง) 1 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 9 (โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม) และมี 12 เป้าหมาย มีผลการดำเนินงานที่ต้องปรับปรุง (สีส้ม) ขณะที่เป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วน (สีแดง) มี 4 เป้าหมาย ได้แก่  SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) SDG 12 (การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน) SDG 16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) 

ขณะที่ 5 อันดับสุดท้ายจังหวัดที่มีผลคะแนนต่ำสุดของภาคตะวันออก ได้แก่ อันดับสุดท้าย อันดับ 11 จังหวัดพัทลุง 50.17 คะแนน อันดับ 10 ระนอง 51.26 คะแนน อันดับ 9 นครศรีธรรมราช 51.51 คะแนน อันดับ 8 สุราษฎร์ธานี 54.17 คะแนน และอันดับ 7 สตูล 54.72 คะแนน

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่าสาเหตุที่จังหวัดพัทลุง ถูกจัดอยู่อันดับท้ายสุดของภาค เนื่องจากเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานต้องปรับปรุงเร่งด่วน (สีแดง) ถึง 5 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 1 (ยุติความยากจน) SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) SDG 12 (การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน) SDG 13 (การรรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ SDG 16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง) ขณะที่เป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานต้องปรับปรุง (สีส้ม) มากถึง 10 เป้าหมาย ได้แก่  SDG 2 (ยุติความหิวโหย) SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ)  SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG 6 (น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล) SDG 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) SDG 9 (โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม)  SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) SDG 11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) SDG 15 (ระบบนิเวศบนบก) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) ส่วนเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานค่อนข้างดี (สีเหลือง) เพียง 1 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 7 (พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้) 

ดังนั้น จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าจังหวัดในภาคใต้มีการกระจายตัวของคะแนนค่อนข้างใกล้เคียงกันโดยมีทั้งจังหวัดที่มีคะแนนสูงอย่างสงขลา จนรวมไปถึงจังหวัดที่มีคะแนนต่ำอย่าง นครศรีธรรมราช ซึ่งสะท้อนถึงความแตกต่างของการพัฒนาที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ การกระจายตัวของคะแนนสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างจังหวัดในภาคใต้ ที่อาจมีสาเหตุมาจากความแตกต่างในการเข้าถึงทรัพยากร โอกาส และบริการพื้นฐาน โดยจังหวัดที่มีคะแนนต่ำอาจเผชิญกับความท้าทายเชิงระบบที่ซับซ้อน เช่น ข้อจำกัดด้านงบประมาณ บุคลากร และความสามารถในการบริหารจัดการ

บทความถัดไป SDG Move จะนำเสนอรายละเอียดของ SDG Index รายจังหวัดตามกลุ่มภูมิภาค พร้อมทั้งเชื่อมโยงให้เห็นในระดับเป้าหมายว่าจังหวัดต่าง ๆ มีความก้าวหน้าหรือท้าทายในเป้าหมายใดเป็นการเฉพาะบ้าง  ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำไปต่อยอดเชิงนโยบายและการปฏิบัติร่วมกันได้

อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Area Need : ที่นี่


แพรวพรรณ ศิริเลิศ – บรรณาธิการ
อติรุจ ดือเระ – พิสูจน์อักษร
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ

ซีรีส์ Area Need จะสรุปข้อค้นพบสำคัญของโครงการปีที่ 1 - 2 และอัปเดตสิ่งที่เรากำลังทำต่อในปีที่ 3 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

Last Updated on กันยายน 28, 2025

Author

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น