วิกฤตราคาอาหารพุ่งในศรีลังกา สู่ความโกรธาจากใจประชาชน

  • ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศศรีลังกา ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศปรับสูงขึ้นหลายเท่าตัว

  • การประท้วงเพื่อขับไล่รัฐบาลในหลาย ๆ เมือง เนื่องจากการบริหารประเทศล้มเหลว ขยายความรุนแรงเป็นวงกว้าง จนมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมฝูงชน

  • UN ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดการเจรจาร่วมกับประชาชนชาวศรีลังกาเพื่อลดความตึงเครียดซึ่งจะนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงในอนาคต

ประเทศศรีลังกากำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง เนื่องจากนโยบายการเงินที่อ่อนแอของรัฐบาลชุดก่อน ๆ และการลดภาษีในเวลาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ สถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ปัญหาเหล่านี้ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศศรีลังกาในปัจจุบันกำลังดำเนินไปสู่ขั้นวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

หนึ่งในวิกฤตสำคัญที่ส่งผลต่อประชาชนวงกว้างคือ วิกฤตราคาสินค้าอาหารที่พุ่งสูงขึ้น ราคาสินค้าอาหารในประเทศศรีลังกานั้นได้พุ่งสูงถึง 30.2% เป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคมของปีนี้ เมื่อเทียบกับราคาเมื่อเดือนมีนาคมปี 2562 ซึ่งราคาอาหารขณะนั้นลดลงจากปีก่อนหน้า 1.4% นอกจากนี้ จากปัญหาขาดแคลนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จึงทำให้รัฐบาลดำเนินการจำกัดการนำเข้าอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญ ๆ ส่งผลให้สินค้าในประเทศหลายประเภทมีราคาสูงขึ้น อาทิ นมผง และข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของประชาชน จากข้อมูลหน่วยงานสำรวจและสถิติของประเทศศรีลังกา สำนักข่าว Aljazeera รายงานว่า ราคาข้าวสารขาวได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 93% จากปี 2562 รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ อาทิ ไก่ และเนื้อ ก็ได้ปรับสูงขึ้นถึง 55% และ 49% ตามลำดับเช่นกัน  แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์ของประเทศศรีลังกาได้ให้ข้อมูลว่ามีการขายข้าวในราคาสัมปทานที่ลดพิเศษผ่านเครือข่ายค้าส่งในประเทศเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน แต่จากการสำรวจในร้านค้าท้องถิ่น ก็ยังพบว่ามีปริมาณข้าวที่นำเข้ามาไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน

ปัญหาเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานทำให้ประชาชนไม่พอใจในการบริหารงานของรัฐบาล ส่งผลให้เกิดการประท้วงใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลตอบโต้ด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และปิดกั้นการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว แต่สถานการณ์กลับดำเนินไปอย่างรุนแรง โดยมีทั้งการจับกุมและการทำร้ายร่างกายอย่างกว้างขวาง คณะผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดการเจรจาร่วมกับประชาชนชาวศรีลังกาเพื่อลดความตึงเครียดซึ่งจะนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรงในอนาคต

“พวกเราขอให้รัฐบาลศรีลังกาดำเนินการหาหนทางในการเปิดการเจรจาร่วมกับผู้ประท้วงในการปฏิรูปทางการเมืองอย่างสันติ ตลอดจนดำเนินการบรรเทาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ” กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.5) ภายในปี 2573 สร้างภูมิต้านทานให้แก่คนยากจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์เปราะบางและลดการเผชิญหน้าและความเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง/ภัยพิบัติอันเนื่องมาจากภูมิอากาศ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม 
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
– (2.1) ยุติความหิวโหยและสร้างหลักประกันให้ทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยากจนและอยู่ในภาวะเปราะบาง อันรวมถึงทารก ได้เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีอาหารตามหลักโภชนาการ และมีอาหารเพียงพอตลอดทั้งปี ภายในปี 2573
– (2.c) นำมาตรการที่สามารถสร้างหลักประกันได้ว่าตลาดโภคภัณฑ์อาหารและตลาดอนุพันธ์สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของตลาดและข้อมูลสำรองอาหารได้อย่างทันการณ์ เพื่อจำกัดความผันผวนของราคาอาหารที่รุนแรง
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.1) ลดความรุนแรงทุกรูปแบบและอัตราการตายที่เกี่ยวข้องในทุกแห่งให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
– (16.6) พัฒนาสถาบันทุกระดับให้มีประสิทธิผล มีความรับผิดชอบ และโปร่งใส
– (16.7) สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบ ครอบคลุม มีส่วนร่วม และมีความเป็นตัวแทนที่ดี ในทุกระดับการตัดสินใจ

แหล่งที่มา
Food prices surge to ‘unbearable levels’ in Sri Lanka (The Economic Times)
Infographic: Sri Lanka’s economic crisis and political turmoil (Aljazeera) 
Respect and protect basic human rights in Sri Lanka, UN experts urge (UN)

ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเพื่อการพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสุขภาพของประเทศไทย

Last Updated on พฤษภาคม 1, 2022

Author

  • Phongnarin Sukcham

    Knowledge Communication | ผู้ชอบสำรวจการ "ข้าม" วัฒนธรรมของตนเองและสังคม แต่ไม่มองข้ามความอยุติธรรมที่ฉุดรั้งการพัฒนา

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น