คนจะยังขาด น้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัย ในอนาคต หากยังละเลยในปัญหาและทำงานช้าเช่นปัจจุบัน

ผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วโลกจะไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดีได้ทันภายในปี ค.ศ. 2­030 หากยังไม่มีความคืบหน้าที่เร็วขึ้น 4 เท่า อ้างอิงจาก รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมกับองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ที่เผยแพร่เมื่อ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

WHO และ UNICEF ได้จัดทำรายงาน ‘Progress on household drinking water, sanitation and hygiene 2000 – 2020’ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสำรวจการเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัย ระบบสุขาภิบาลและสุขอนามัยของภาคครัวเรือนทั่วโลก รวมถึงการประเมินความคืบหน้าสำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในเป้าหมายที่ 6 ว่าด้วยการมีน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี­

โดยประเด็นที่สำคัญและน่าสนใจของรายงานมีดังต่อไปนี้

  • ประชากร 1 ใน 4 ของโลกขาดน้ำดื่มปลอดภัยในบ้านของพวกเขา
  • ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกไม่สามารถเข้าถึงสุขาภิบาลที่ดีและมีความปลอดภัยได้
  • ประชากร 3 ใน 10 ของโลกไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและสบู่ที่มีคุณภาพสำหรับล้างมือ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดโอกาสติดเชื้อในช่วงที่ยังมีการระบาดของโคโรนาไวรัส
  • 8 ใน 10 ของคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการน้ำสะอาดขั้นพื้นฐานได้อยู่ในพื้นที่ชนบท รวมถึงการให้บริการด้านสุขอนามัยที่เข้าถึงเพียง 44% ของคนในชทบท
  • ในแอฟริกาใต้ซะฮารา (Sub-Saharan Africa) มีความก้าวหน้าของการดำเนินงานด้านสุขอนามัยช้าที่สุดในโลก โดยในแอฟริกามีคนได้ดื่มน้ำสะอาดเพียงแค่ 45%

สิ่งที่น่าสนใจในรายงานฉบันนี้ คือ ได้ศึกษาประเด็นสุขภาพประจำเดือนของผู้หญิงเป็นฉบับแรก พบว่า ในหลายประเทศ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงไม่สามารถเข้าถึงความต้องการด้านสุขภาพประจำเดือนได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความพิการและคนยากจน

หากประเด็นดังกล่าวยังคงมีแนวโน้มเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคตจะส่งผลต่อครอบครัวและเด็กนับพันล้านคนที่จะไม่สามารถเข้าถึงบริการน้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัย (WASH) ที่จำเป็นต่อชีวิตได้ภายในปี 2030 โดยมีการคาดการณ์ว่า

  • มีเพียงแค่ 81% ของประชากรโลกที่เข้าถึงแหล่งน้ำดื่มปลอดภัยที่บ้าน ในขณะที่ประชากรอีก 1.6 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงได้
  • มีเพียงแค่ 78% ที่เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกการล้างมือ ในขณะที่ประชากรอีก 1.9 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงได้
  • มีเพียงแค่ 67% ที่จะเข้าถึงบริการสุขาภิบาลที่ปลอดภัย ในขณะที่ประชากรอีก 2.8 พันล้านคนไม่สามารถเข้าถึงได้

โดยทาง Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า “การลงทุนในน้ำสะอาด สุขอนามัยและ สุขาภิบาล ต้องเป็นเป้าหมายหลักของโลก หากต้องการที่หยุดยั้งการระบาดใหญ่ และสร้างระบบสุขภาพที่สามารถปรับตัวกับสถานการณ์ได้เร็วขึ้น”

โดยสรุปแล้วเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่คนนับพันล้านไม่สามารถเข้าถึงบริการน้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัยได้ จำเป็นต้องมีการลงทุนและรวบรวมผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น องค์กรระหว่างประเทศ อย่าง องค์กรอนามัยโลก รวมไปถึง รัฐบาล ภาคธุรกิจ ประชาชนทั่วไป มาร่วมประชุมหาทางออก โดยกำหนดให้เป็นวาระสำคัญของทุก ๆ ประเทศ เพื่อที่จะได้ติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานของแต่ละประเทศ

อ่านรายงาน Progress on household drinking water, sanitation and hygiene, 2000-2020 ที่นี่

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG 3 มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
– (3.9) ลดจำนวนการตายและการป่วยจากสารเคมีอันตราย และจากการปนเปื้อนและมลพิษทางอากาศ น้ำ และดิน ให้ลดลงอย่างมาก ภายในปี 2573
#SDG 6 การมีน้ำสะอาดและสุขอนามัยที่ดี
– (6.1) บรรลุเป้าหมายการให้ทุกคนเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีราคาที่สามารถซื้อหาได้ภายในปี 2573
– (6.2) บรรลุเป้าหมายการให้ทุกคนเข้าถึงสุขอนามัยที่พอเพียงและเป็นธรรม และยุติการขับถ่ายในที่โล่ง โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อความต้องการของผู้หญิงเด็กหญิงและกลุ่มที่อยู่ใต้สถานการณ์ที่เปราะบางภายในปี 2573
– (6.a) ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศและการสนับสนุนการเสริมสร้างขีดความสามารถในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำและสุขอนามัย ซึ่งรวมถึงด้านการเก็บน้ำ การขจัดเกลือ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการน้ำเสียเทคโนโลยีการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่

ที่มา : WHO


Author

  • Itthiporn Teepala

    Knowledge Communication [Intern] สนใจในการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีความรวดเร็ว มีผลกระทบต่อความยั่งยืนหรือมั่นคงในด้านต่าง ๆ อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น