SDG Updates | SDG Index ของจังหวัดในภาคใต้ชายแดน: สถานะรายเป้าหมายและข้อค้นพบรายตัวชี้วัด

ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จับมือ กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เเละคณะทำงานระดับภาคทั้ง 6 ภาค ได้แก่ เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง ตะวันออก ใต้ และใต้ชายแดน เผยเเพร่ SDG Index ระดับจังหวัดของประเทศไทย โดยข้อมูลชุดนี้เป็นผลจากการวิจัยภายใต้ โครงการจัดทำแผนบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน หรือ “Area Need” มีเป้าหมายสำคัญเพื่อเป็นฐานข้อมูลตั้งต้นเเก่ สกสว. สำหรับวางเเผนดำเนินการระบบวิจัย วิทยาศาสตร์ เเละนวัตกรรม (ววน.) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับพื้นที่ โดยไม่ได้สภาพบังจังหวัดใดเป็นการเฉพาะ

โดยศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายภาควิชาการในภาคต่าง ๆ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในระดับภาคในแต่ละภาค ซึ่งสะท้อนถึงการบูรณาการบทบาทและความร่วมมือระหว่าง สกสว. และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน


00 – ข้อควรทราบก่อนอ่านรายงาน

  • กระบวนการสำคัญของ Area Need 3 คือการจัดทำ ‘ดัชนีการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับจังหวัด’ หรือที่เรียกว่า ‘Provincial SDG Index’ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวัดและติดตามความก้าวหน้าด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ ผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลระดับชาติที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ควบคู่กับการวิเคราะห์ช่องว่างของข้อมูล ผ่านกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อนำเสนอข้อมูลความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับภูมิภาคและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับพื้นที่ ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • การประเมินสถานะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับจังหวัด ผ่านการใช้ข้อมูลทุติยภูมิในระดับภายในประเทศ (sub-national) เพื่อการประเมินสถานะของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รายจังหวัดหรือเมืองในประเทศ โดยในต่างประเทศ มีการใช้ SDG Index ในการประเมินระดับเมืองและระดับรัฐมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมาในหลายประเทศ ดำเนินการโดยเครือข่าย SDSN Thailand  นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีการใช้ข้อมูลทุติยภูมิประเมินสถานการณ์ในประเทศที่สอดคล้องกับ SDGs โดยงานที่สำคัญคืองานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่พัฒนาตัวชี้วัดการพัฒนาระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในปี พ.ศ. 2564 ที่จัดระบบตามแบบ 5Ps (People Prosperity Planet Peace และ Partnership) และงานที่โครงการพัฒนาเเห่งสหประชาชาติ (UNDP) ทำร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)ในการจัดทำ Provincial SDG Profile ในปี พ.ศ. 2566
  • การจัดทำ SDG Index ระดับจังหวัด เบื้องต้นเน้นใช้ตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม หากมีตัวชี้วัดระดับจังหวัดอื่นที่สอดคล้องกับเป้าหมายย่อยของ SDGs แม้ไม่ถูกรวมอยู่ในดัชนีสากล ก็อาจพิจารณานำมาบรรจุเพิ่มเติมได้ เหตุผลสำคัญคือ การยกระดับคะแนนและสถานะของประเทศไทยในดัชนีสากล จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลที่สะท้อนสถานการณ์จริงภายในประเทศอย่างครบถ้วน การมีตัวชี้วัดที่เชื่อมโยงทั้งระดับสากลและระดับพื้นที่ จะช่วยให้สามารถระบุปัญหาเชิงพื้นที่ได้ชัดเจนและจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาและพัฒนาสถานะตัวชี้วัดเหล่านั้นต่อไป
  • วิธีการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี มี 3 ขั้นตอน ได้แก่
  1. การทบทวนวรรณกรรม (literature review): ดำเนินการสำรวจและรวบรวมตัวชี้วัดจากหลายแหล่ง ได้แก่ SDG Index, รายงานความยั่งยืนระดับกลุ่มจังหวัด, SDG Profile, และรายงานสถานะตัวชี้วัดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ พ.ศ. 2566 จากนั้นจึงทำการคัดเลือกตัวชี้วัดที่เหมาะสม พร้อมกำหนด Proxy Indicator และระบุตัวชี้วัดที่จะใช้ในโครงการ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายการตัวชี้วัดระดับจังหวัดของประเทศไทยที่มีความสอดคล้องกับตัวชี้วัดของดัชนีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากลพร้อมทั้งระบุข้อมูลของตัวชี้วัดทั้งหน่วยงานเจ้าของข้อมูล รอบของการจัดเก็บและรายงาน
  2. การรวบรวมข้อมูล (data collection): ดำเนินการดึงข้อมูลหรือขอความอนุเคราะห์ข้อมูลระดับจังหวัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์และค่าเป้าหมายต่าง ๆ ข้อมูลดิบตามรายการที่จัดทำไว้ในข้อแรก โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น ฐานข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และการประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของข้อมูลอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นให้ได้ข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี หากสามารถเข้าถึงข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 จะเป็นประโยชน์สูงสุด เนื่องจากช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแสดงแนวโน้มของสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
  3. การวิเคราะห์ข้อมูล (data processing and analysis): รวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดลงในเทมเพลตการคำนวณ จากนั้นจึง normalization ค่าข้อมูลให้อยู่ในช่วง 0 ถึง 100 และคำนวณ ค่าเฉลี่ยตามเป้าหมาย ทั้งในระดับจังหวัดและระดับภาค พร้อมระบุประเด็นท้าทายของแต่ละจังหวัด สำหรับการกำหนดระดับสีของตัวชี้วัด จะใช้กระบวนการทางสถิติในการจัดกลุ่มข้อมูล โดยพิจารณารายการตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ค่าต่ำสุด และค่าที่ใช้ในการแบ่งระดับสี

01 – ภาพรวม SDG Index ของภาคใต้ชายแดน

คะแนน SDG Index เฉลี่ยของภาคใต้ชายแดนอยู่ที่ 47.42 คะแนน ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยรวมของภาคที่อยู่ในระดับต่ำ โดยจังหวัดยะลาเป็นจังหวัดที่มีคะแนนสูงสุดในภาค เท่ากับ 50.75 คะแนน แสดงถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนจังหวัดปัตตานีมีคะแนน 48.86 คะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภาคแสดงถึงความพยายามในการพัฒนาที่ยั่งยืน ในขณะที่จังหวัดนราธิวาสมีคะแนนต่ำสุดในระดับภาคเท่ากับ 41.65 คะแนน แสดงถึงความท้าทายในการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นอย่างมาก

  • คำอธิบายสีสถานะ
    • เขียว – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เหลือง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • ส้ม – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นค่อนข้างต้องปรับปรุงเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • แดง – จังหวัดที่มีผลการดำเนินงานเป้าหมายนั้นที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วนเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น
    • เทา – ไม่มีข้อมูล

ด้านสถานะผลการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ระดับจังหวัดในภาคใต้ชายแดน สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นสำคัญดังนี้ 

  • โดยรวมภาคใต้ชายแดนยังคงมีความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายด้านสังคม (SDG 1 – 3) ด้านสิ่งแวดล้อม (SDG 12 , 13) โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ (SDG 7 – 11)  และมิติด้านหุ้นส่วนการพัฒนา (SDG 17) ประเด็นเหล่านี้บ่งชี้ถึงความจำเป็นในการเร่งดำเนินการและกำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะด้านการศึกษา (SDG 4) ด้านความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) และด้านการจัดการน้ำที่ยั่งยืน (SDG 6) 
  • ภาคใต้ชายแดนมีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดีในมิติด้านการรักษาทรัพยากรทางทะเลและการฟื้นฟูระบบนิเวศบนบก (SDG 14 ,15) และสถานะการบรรลุเป้าหมาย SDG ของแต่ละจังหวัดค่อนข้างมีความสอดคล้องกัน

เมื่อนำคะแนน SDG Index รายตัวชี้วัดมาหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายของแต่ละจังหวัดเพื่อหาค่าเฉลี่ยรายเป้าหมายหมายของภาคใต้ชายแดน พบว่าเป้าหมายที่ได้คะแนนสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 15  มีคะแนน 87.55 คะแนน SDG 7 มีคะแนน 75.74 คะแนน SDG 13 มีคะแนน 70.22 คะแนน SDG 14 มีคะแนน 67.63 คะแนน และ SDG 16 มีคะแนน 59.48 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่าเป้าหมายที่มีคะแนนสูงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าคะแนน SDG 16 จะอยู่ใน 5 เป้าหมายที่ดีที่สุดนั้นอาจไม่สะท้อนสถานการณ์ที่แท้จริง เนื่องจากข้อจำกัดของตัวชี้วัดที่ไม่ได้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น ปัญหาความไม่สงบและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ภาคใต้ชายแดน ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การประเมินผลมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคาดว่าเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว คะแนน SDG16 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะปรากฏในรายงานฉบับสมบูรณ์ต่อไป

ขณะที่เป้าหมายที่ได้คะแนนต่ำที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SDG 17 มีคะแนน 15.37 คะแนน SDG 6 มีคะแนน 17.66 คะแนน SDG 4 มีคะแนน 24.24 คะแนน SDG 5 มีคะแนน 27.79 คะแนน และ SDG 1 มีคะแนน 35.22 คะแนน ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า เป้าหมายที่มีคะแนนต่ำส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสังคมและด้านหุ้นส่วนการพัฒนา ทั้งนี้ คะแนน SDG 17 ที่อยู่ในระดับต่ำนั้นเป็นผลมาจากการที่ SDG 17 มีตัวชี้วัดแค่เพียงตัวชี้วัดเดียวซึ่งไม่เพียงพอในการสะท้อนประเด็นเรื่องความร่วมมืออย่างครอบคลุม ทั้งนี้ คณะผู้วิจัยได้ดำเนินการเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การประเมินผลมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยคาดว่าเมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว คะแนน SDG17 จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะปรากฏในรายงานฉบับสมบูรณ์ต่อไป


02 – ข้อค้นพบรายตัวชี้วัดของภาคใต้ชายแดน

เมื่อพิจารณาในเชิงตัวชี้วัด พบว่าภาคใต้ชายแดนมีประเด็นที่สะท้อนความก้าวหน้าในการดำเนินงาน และประเด็นที่ยังคงมีความเสี่ยงหรือข้อท้าทาย ดังนี้

  • ประเด็นพื้นที่เกษตรที่มีการทำการเกษตรแบบยั่งยืน (SDG 2)
  • ประเด็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร (SDG 2) 
  • ประเด็นจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี  (SDG 3) 
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ  (SDG 3) 
  • ร้อยละความครอบคลุมในระบบประกันสุขภาพ (SDG 3) 
  • ประเด็นดัชนีความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) 
  • ประเด็นสัดส่วนปริมาณการใช้ไฟฟ้า (SDG 7) 
  • ประเด็นคดีเหยื่อค้ามนุษย์ (SDG 8) 
  • ประเด็นความเข้มข้นของ PM 2.5  (SDG 3) (SDG 11)
  • จำนวนการเผาไหม้ในเขตชุมชน (SDG 11) 
  • ประเด็นการได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ (SDG 13) 
  • ประเด็นการทำประมงแบบยั่งยืน (SDG 14) 
  • ประเด็นอัตราการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าไม้ (SDG 15)
  • ประเด็นจำนวนชนิดพันธุ์ต่างถิ่น จำนวนพื้นที่บุกรุกป่า และพื้นที่เผาไหม้ในเขตป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ (SDG 15)  
  • ประเด็นจำนวนชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ได้รับสัญชาติ คดีค้ามนุษย์ คดีอาชญากรรมไซเบอร์ และสถิติความรุนแรงในครอบครัว (SDG 16)
  • ประเด็นคนจนของประเทศ (SDG 1)
  • สัดส่วนคนจนเป้าหมายที่ลงทะเบียนในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (SDG 1) 
  • ประเด็นภาวะโภชนาการคนทุกช่วงวัย (SDG 2) 
  • ประเด็นผู้ป่วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ (SDG 3)
  • ประเด็นการให้บริการวัคซีนในเด็กอายุไม่เกิน 1 ปี (SDG 3) 
  • ประเด็นสัดส่วนนักเรียนชั้นก่อนประถมและประถมศึกษาและผลคะแนนสอบ ONET ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 (SDG 4) 
  • ประเด็นการได้รับบริการคุมกำเนิด สัดส่วนอัตราแรงงานในระบบ และสัดสัดส่วนนักการเมืองที่เป็นเพศหญิง (SDG 5) 
  • ประเด็นน้ำสะอาดในครัวเรือน (SDG 6) 
  • ประเด็นการเติบโตของ GPP (SDG 8) 
  • ประเด็นการผลิตบทความ/งานวิจัยที่เผยแพร่ในฐานข้อมูล Scopus (SDG 9) 
  • ประเด็นการให้บริการขนส่งสาธารณะและพื้นที่สีเขียว  (SDG 11) 
  • ประเด็นโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Green Hotel (SDG 12) 
  • ประเด็นเหตุการณ์ความไม่สงบและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ (SDG 16) 
  • ประเด็นการจัดเก็บภาษีอากรรายจังหวัด อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (SDG 17)

03 – จังหวัดที่มีคะแนนและอันดับน่าสนใจ

อันดับภาคอันดับประเทศคะแนนจังหวัด
16050.75ยะลา
27048.86ปัตตานี
37641.65นราธิวาส

เมื่อพิจารณาจากลำดับและคะแนนภาคใต้ชายแดนทั้ง 3 จังหวัด พบว่าจังหวัดที่มีผลคะแนนสูงสุดคือ ยะลา (50.75 คะแนน) ตามมาด้วย ปัตตานี (48.86 คะแนน) และอันดับสุดท้ายคือ นราธิวาส (41.65) คะแนน ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบระดับประเทศ พบว่าไม่มีจังหวัดใดเลยที่ติดอยู่ใน 50 อันดับแรก ยิ่งไปกว่านั้น ปัตตานี และ นราธิวาส กลับถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับสุดท้ายอีกด้วย 

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก พบว่าสาเหตุที่จังหวัดยะลา ถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ชายแดน เนื่องจากมีเป้าหมายที่มีผลการดำเนินงานที่ต้องปรับปรุงเร่งด่วน (สีแดง) น้อยที่สุดเพียง 2 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) และ SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) ขณะที่ปัตตานีมีเป้าหมายที่อยู่ในสถานะสีแดง 5 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG 6 (น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล) SDG 16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อกสารพัฒนาที่ยั่งยืน) ส่วนนราธิวาสมีมากที่สุดถึง 8 เป้าหมาย ได้แก่ SDG 1 (ยุติความยากจน) SDG 2 (ยุติความหิวโหย) SDG 3 (ยุติความยากจน)  SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) SDG 5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG 6 (น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล) SDG 8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ)  และ SDG 16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง)

โดยสรุป ภาคใต้ชายแดนมีการกระจายตัวของคะแนนที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อยู่ในช่วง 40-50 คะแนน ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคใต้ชายแดนยังคงมีช่องว่างในการพัฒนาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 

อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Area Need : ที่นี่


อติรุจ ดือเระ – บรรณาธิการ
แพรวพรรณ ศิริเลิศ – พิสูจน์อักษร
วิจย์ณี เสนเเดง – ภาพประกอบ

ซีรีส์ Area Need จะสรุปข้อค้นพบสำคัญของโครงการปีที่ 1 - 2 และอัปเดตสิ่งที่เรากำลังทำต่อในปีที่ 3 ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป

Author

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น