วันที่ 1 กันยายน 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์เผยว่า สมาคมนักวิชาการนานาชาติด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (International Association of Genocide Scholars: IAGS) ซึ่งเป็นสมาคมที่ได้รับความเชื่อถือและเป็นผู้นำทางวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ใหญ่สุดในโลก ได้มติยืนยันว่าปฏิบัติการของอิสราเอลต่อพื้นที่ในฉนวนกาซานั้นเป็นการฆ่าล้างพันธุ์ โดย 86% ของผู้ลงคะแนนเสียงจากสมาชิกสมาคมข้างต้นจำนวน 500 คน สนับสนุนมติที่ว่านโยบายและการกระทำของอิสราเอลในกาซาครบถ้วนตามนิยามการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (ข้อ 2) ของอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมทำลายล้างเผ่าพันธุ์ ค.ศ. 1948 (Convention on the Prevention and Punishment of the Crime of Genocide)
นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 63,000 คน สร้างความเสียและทำลายอาคารบ้านเรือน อีกทั้งบังคับให้ผู้อาศัยในกาซาต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน ขณะที่รายงานติดตามความหิวโหยที่ได้รับการยืนยันโดยองค์การสหประชาชาชาติชี้ว่าพื้นที่บางส่วนของกาซากำลังเผชิญกับภาวะความอดอยาก
ด้านความเคลื่อนไหวจากภาคสื่อสารและสำนักข่าวในวันเดียวกันก็น่าสนใจไม่น้อย โดยองค์กรสื่อไร้พรมแดน (Reporters Without Borders หรือ RSF) องค์กรสิทธิมนุษยชน Avaaz และ สหพันธ์นักข่าวนานาชาติ (International Federation of Journalists หรือ IFJ) ร่วมกับสำนักข่าวจากอีก 50 ประเทศทั่วโลก ได้มีการประท้วงเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้อิสราเอลหยุดยั้งการสังหารและจำกัดเสรีภาพของนักข่าว โดยสำนักข่าวกว่า 250 แห่งจากทั่วโลกได้ขึ้นจอดำ มีการพิมพ์สีดำล้วนลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ตนเองพร้อมระบุข้อความ “กองทัพอิสราเอลกำลังสังหารนักข่าวในกาซ่า หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป จะไม่มีใครเหลือรายงานข่าวอีก” ขณะที่สำนักข่าวที่ออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์เลือกใช้วิธีการหยุดออกอากาศชั่วคราวเพื่อเผยแพร่แถลงการณ์ร่วม ทั้งนี้นับตั้งแต่การสู้รบครั้งใหม่พบว่ามีนักข่าวในฉนวนกาซาเสียชีวิตปฏิบัติการของอิสราเอลแล้วกว่า 210 คน
ความเคลื่อนไหวจากทั้งภาควิชาการและภาคสื่อที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้สะท้อนถึงการตระหนักเห็นว่าสถานการณ์ในฉนวนกาซากำลังวิกฤติอย่างร้ายแรง และเป็นการส่งสารอย่างมีแรงกระเพื่อมว่าโลกต้องหยุดยั้งนโยบายและปฏิบัติการของอิสราเอลให้ได้เร็ววันเพื่อยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและเป็นภัยคุกคามต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– OHCHR ระบุปี 2565 เป็นปีที่ชาวปาเลสไตน์ถูกคร่าชีวิตในเขตเวสต์แบงก์มากที่สุดในรอบ 17 ปี พร้อมประณามอิสราเอลใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
– ‘แรงงานไทยในอิสราเอล’ ชีวิตท่ามกลางการสู้รบ และคำถามถึงการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
– เด็กหลักล้านคนในโลกตกเป็นทาสสมัยใหม่ โดยรูปแบบหนึ่งคือการค้ามนุษย์ที่มีสถานสงเคราะห์เด็กบังหน้า
– ผู้อพยพเด็กที่เดินทางโดยลำพังอย่างน้อย 18,000 คน หายตัวไปในยุโรปตั้งแต่ปี 2018 เสี่ยงตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์
– UN ส่งรถบรรทุกขบวนแรกเข้าถึงพื้นที่กาซาเพื่อส่งมอบอาหาร น้ำ และยา หวังช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเเก่คนอีกกว่า 1.6 ล้านคน
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.1) ลดความรุนแรงทุกรูปแบบและอัตราการตายที่เกี่ยวข้องในทุกแห่งให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
– (16.3) ส่งเสริมหลักนิติธรรมทั้งในระดับชาติและระหว่างประเทศ และสร้างหลักประกันว่าทุกคนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
– (16.10) สร้างหลักประกันว่าสาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีการปกป้องเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายภายในประเทศและความตกลงระหว่างประเทศ
แหล่งที่มา
– Israel is committing genocide in Gaza, scholars’ association says (Reuters)
– 250 สำนักข่าวทั่วโลกขึ้นจอดำ ร่วมประท้วงการสังหารสื่อปาเลสไตน์-เรียกร้องให้สื่อเข้าถึงฉนวนกาซา (ประชาไท)