องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the UN: FAO) ได้เผยแพร่รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามตัวชี้วัด SDGs ด้านอาหารและการเกษตร ปี 2568 (Tracking Progress on Food and Agriculture-related SDG Indicators 2025) ภายใต้ความรับผิดชอบในฐานะหน่วยงานผู้ดูแล สำหรับตัวชี้วัด 22 ตัวชี้วัด โดยครอบคลุมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ SDG2 ยุติความหิวโหย SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน SDG14 ทรัพยากรทางทะเล และ SDG15 ระบบนิเวศบนบก เพราะแม้โลกจะเข้าสู่ช่วงห้าปีสุดท้ายของการบรรลุเป้าหมาย SDGs แต่ปัจจุบันยังมีตัวชี้วัดด้านอาหารและการเกษตรประมาณครึ่งหนึ่งที่โลกยังห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมาย
รายงานฉบับนี้ ระบุว่าตัวชี้วัดภายใต้ความรับผิดชอบของ FAO ประมาณ 1 ใน 4 ใกล้จะบรรลุเป้าหมายแล้ว ขณะที่อีก 1 ใน 4 ยังคงห่างจากการบรรลุเป้าหมาย และ ประมาณ 1 ใน 3 ของตัวชี้วัดมีพัฒนาการหรือปรับปรุงขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2558 อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้ากลับถดถอยจาก 3 ใน 5 ของตัวชี้วัด ทั้งยังได้มีการประเมินความหลากหลายทางโภชนาการขั้นต่ำของผู้หญิง (Minimum Dietary Diversity for Women) ซึ่งเป็นตัวชี้วัด SDG ใหม่ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการสถิติแห่งสหประชาชาติในปีนี้
รายงานมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่
- ความไม่มั่นคงทางอาหารส่งผลกระทบต่อประชากรราว 28% ของโลก ซึ่งสูงกว่าระดับในปี 2558 อย่างมาก และในปี 2567 คาดว่าประชากรราว 8.2% ของโลกอาจต้องเผชิญกับความหิวโหย
- มีเพียง 65% ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทั่วโลกที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนขั้นต่ำในช่วงปี 2562 – 2566 ขณะที่ภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา และเอเชียตอนกลางถึงตอนใต้ ยังคงมีความก้าวหน้าต่ำกว่าภูมิภาคอื่น ๆ
- ความผันผวนของราคาสินค้าอาหารยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2558 – 2562 ถึง 3 เท่า
- จากผลการสำรวจในเกือบ 80% ของประเทศทั่วโลก พบว่า ผู้หญิงไม่ถึงครึ่งหนึ่งมีสิทธิ์ในที่ดินอย่างมั่นคง ขณะที่ผู้ชายมีแนวโน้มเป็นเจ้าของที่ดินมากกว่าผู้หญิงอย่างน้อยสองเท่า
- ในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง เกษตรกรรายย่อยมีรายได้ต่ำกว่าผู้ผลิตอาหารรายใหญ่กว่าเท่าตัว
นอกจากนี้ รายงานระบุด้วยว่าโลกยังไม่เข้าใกล้ แต่ก็ไม่ห่างไกลเกินไปในการบรรลุเป้าหมายด้านการเกษตรที่ผลิตได้และยั่งยืน เนื่องจากพบว่าจำนวนทรัพยากรพันธุกรรมสัตว์ (animal genetic resources) ในสถานที่อนุรักษ์เพิ่มขึ้น ขณะที่ แนวโน้มประสิทธิภาพการใช้น้ำทั่วโลกก็เพิ่มขึ้น 23% ระหว่างปี 2558–2565 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนอัตราการลดลงของพื้นที่ป่าทั่วโลก ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับทศวรรษก่อนหน้า
ทั้งนี้ ด้านการประมงที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในการนำเครื่องมือระหว่างประเทศมาใช้เพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) แต่รายงานยังคงย้ำเตือนว่าผลกระทบที่จับต้องได้จากมาตรการเหล่านี้ยังเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า โดยสัดส่วนปริมาณสัตว์น้ำคงเหลือ (fish stock) ทั่วโลกที่ยังคงอยู่ในระดับชีวภาพอย่างยั่งยืน กล่าวคือปริมาณสัตว์น้ำอยู่ในระดับที่สามารถทำการประมงได้โดยไม่ทำลายความสามารถของประชากรนั้นในการฟื้นตัวตามธรรมชาติ ลดลงเหลือเพียง 62.5% ในปี 2564 จากเดิมที่อยู่ที่ 90% ในปี 2517
รายงานของ FAO สะท้อนให้เห็นว่า ความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายด้านอาหารและการเกษตรยังคงไม่เท่าทันต่อความท้าทายของโลกในปัจจุบัน แม้จะมีพัฒนาการบางด้าน เช่น การอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากร แต่ปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ความเหลื่อมล้ำทางเพศ และรายได้ของเกษตรกรรายย่อย ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– FAO เผยแพร่รายงานความก้าวหน้าของระบบอาหาร ชี้ภูมิภาคต่าง ๆ เข้าถึงน้ำที่ปลอดภัยมากขึ้น แต่ราคาอาหารที่ผันผวนยังเป็นเรื่องน่ากังวล
– เด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปี กว่า 1 ใน 10 คน กำลังเผชิญความยากจนทางอาหารขั้นรุนแรง ยูนิเซฟชี้ทุกภาคส่วนต้องช่วยให้เด็กเข้าถึงอาหารมากขึ้น
– รายงานวิกฤตการณ์อาหารโลกปี 2567 เผยโลกเผชิญกับ ‘ความไม่มั่นคงทางอาหาร’ เหตุจากความขัดแย้ง – สภาพอากาศสุดขั้ว – เศรษฐกิจย่ำแย่
– เมื่อความหิวโหยจุดชนวนเหตุขัดแย้ง: Timeline ความล่มสลายทางเศรษฐกิจของประเทศศรีลังกา
– วิกฤติทางการเมืองในเมียนมาทำให้ประชากรอีก 3.4 ล้านคนต้องเผชิญกับ ‘ความหิวโหย’
– การปฏิรูประบบอาหารให้เป็นการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน หัวใจที่ UN Food Systems Summit เรียกร้องให้ลงมือทำ
– SDG Updates | โลกไม่อาจยุติความหิวโหยได้ หากไม่สามารถยุติความขัดแย้ง และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น
– FAO เรียกร้องให้เพิ่มการลงทุน ‘ความมั่นคงทางอาหาร’ – พบผู้คนราว 733 ล้านคนทั่วโลกยังเผชิญกับความหิวโหย
ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.5) ภายในปี 2573 สร้างภูมิต้านทานให้แก่คนยากจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์เปราะบางและลดการเผชิญหน้าและความเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง/ภัยพิบัติอันเนื่องมาจากภูมิอากาศ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
#SDG2 ขจัดความหิวโหย
– (2.1) ยุติความหิวโหยและสร้างหลักประกันให้ทุกคนโดยเฉพาะคนที่ยากจนและอยู่ในภาวะเปราะบาง อันรวมถึงทารก ได้เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัย มีอาหารตามหลักโภชนาการ และมีอาหารเพียงพอตลอดทั้งปี ภายในปี 2573
– (2.4) สร้างหลักประกันว่าจะมีระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและดำเนินการตามแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่มีภูมิคุ้มกันที่จะเพิ่มผลิตภาพและการผลิต ซึ่งจะช่วยรักษาระบบนิเวศ เสริมขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะอากาศรุนแรง ภัยแล้ง อุทกภัย และภัยพิบัติอื่น ๆ และจะช่วยพัฒนาคุณภาพของดินและที่ดินอย่างต่อเนื่อง ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ
– (5.a) ดำเนินการปฏิรูปเพื่อให้ผู้หญิงมีสิทธิที่เท่าเทียมในทรัพยากรทางเศรษฐกิจ รวมทั้ง การเข้าถึงการเป็นเจ้าของและมีสิทธิในที่ดิน และทรัพย์สินในรูปแบบอื่น การบริการทางการเงิน การรับมรดก และทรัพยากรธรรมชาติ ตามกฎหมายของประเทศ
#SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล
– (6.1) บรรลุเป้าหมายการให้ทุกคนเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีราคาที่สามารถซื้อหาได้ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยังยืน
– (12.1) ดำเนินการให้เป็นผลตามกรอบระยะ 10 ปีของแผนงานว่าด้วยแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ทุกประเทศนำไปปฏิบัติโดยประเทศที่พัฒนาแล้วเป็นผู้นำ โดยคำนึงถึงการพัฒนาและขีดความสามารถของประเทศกำลังพัฒนา
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
– (14.4) ภายในปี พ.ศ. 2563 ให้กำกับการทำการประมงอย่างมีประสิทธิผล และยุติการประมงเกินขีดจำกัด การประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และแนวปฏิบัติด้านการประมงที่เป็นไปในทางทำลาย และดำเนินการให้เป็นผลตามแผนการบริหารจัดการที่อยู่บนฐานวิทยาศาสตร์ เพื่อจะฟื้นฟูมวลปลา (fish stock) ในเวลาที่สั้นที่สุดที่จะเป็นไปได้ อย่างน้อยที่สุดให้อยู่ในระดับผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน (maximum sustainable yield) ตามคุณลักษณะทางชีววิทยาของสัตว์น้ำเหล่านั้น
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
– (15.1) สร้างหลักประกันว่าจะมีการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ระบบนิเวศบนบกและแหล่งน้ำจืดในแผ่นดิน รวมทั้งบริการทางระบบนิเวศอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ ภูเขาและพื้นที่แห้งแล้ง โดยเป็นไปตามข้อบังคับภายใต้ความตกลงระหว่างประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2563
– (15.2) ส่งเสริมการดำเนินการด้านการบริหารจัดการป่าไม้ทุกประเภทอย่างยั่งยืน หยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่า ฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรม และเพิ่มการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าทั่วโลกอย่างจริงจัง ภายในปี พ.ศ. 2563
แหล่งที่มา : FAO Updates on Progress on 22 Food and Agriculture-related SDG Indicators (IISD)