ILO เผยเเพร่รายงานฉบับใหม่ ชี้นโยบายดูแลพนักงานผู้พิการช่วย ‘เพิ่มผลผลิต’ เเละ ‘ดึงดูด’ พนักงานอยู่กับองค์กรนานขึ้น

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนพิการผ่านเครือข่ายธุรกิจและคนพิการทั่วโลก (Global Business and Disability Network: GBDN) และนำเสนอรายงานฉบับใหม่ รายงาน “Care to Compete” โดยระบุว่าการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติขององค์กรที่สนับสนุนพนักงานผู้พิการ รวมถึงพนักงานที่มีผู้พึ่งพิงซึ่งเป็นผู้พิการ สามารถสร้างประโยชน์ต่อธุรกิจ รายงานนี้อ้างอิงจากการศึกษาตัวอย่างบริษัทชั้นนำที่ประสบความสำเร็จในการออกแบบและดำเนินนโยบายดูแลและสนับสนุนอย่างครอบคลุม

รายงานฉบับนี้เผยแพร่หนึ่งปีหลังจากที่ ILO ผ่านมติเรื่อง “การทำงานที่มีคุณค่าและเศรษฐกิจแห่งการดูแล” (Decent Work and the Care Economy) ในปี 2567 พร้อมมีแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ที่เน้นการขยายบริการการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้พิการ เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ความเป็นอิสระ และการเข้าถึงโอกาสในการทำงาน จากผลสำรวจพบว่า บริษัทส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำนโยบายไปปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอในแต่ละภูมิภาค เป็นความท้าทายเชิงโครงสร้างที่พบบ่อยที่สุด รองลงมาคือ ช่องว่างด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับการดูแลและสนับสนุนพนักงาน

ข้อค้นพบสำคัญ 6 ประเด็นในรายงาน ได้แก่

  • การปรับนโยบายการดูแลให้สอดคล้องกับความต้องการของแรงงาน ช่วยให้สามารถรักษาพนักงานไว้ได้นานขึ้นและเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น
  • การสร้างความตระหนักรู้ให้พนักงานถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้พนักงานผู้พิการและพนักงานที่มีผู้พึ่งพิงซึ่งเป็นผู้พิการสามารถใช้ประโยชน์จากนโยบายการดูแลพนักงานได้อย่างเต็มที่
  • การมีส่วนร่วมของพนักงานในนโยบายที่ครอบคลุมในที่ทำงานช่วยเสริมสร้างพลังและความเข้มแข็งแก่พนักงานทุกคน โดยเฉพาะพนักงานผู้พิการ
  • การส่งเสริมความเท่าเทียมในการดูแลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทั้งพนักงานผู้พิการและพนักงานที่มีผู้พึ่งพิงซึ่งเป็นผู้พิการ
  • การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีและการมีส่วนร่วมของพนักงานที่มีหน้าที่ดูแลผู้อื่นถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของนโยบาย
  • การเชื่อมโยงวิสัยทัศน์ระดับโลกของบริษัทกับการนำไปปฏิบัติในท้องถิ่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นโยบายการดูแลมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี รายงานแนะนำให้บริษัทมองว่านโยบายด้านการดูแลและการสนับสนุนเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่ช่วยเสริมสร้างผลผลิตและการรักษาพนักงานไว้ในองค์กร นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการสื่อสารภายในองค์กรอย่างชัดเจนและเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน โดยเฉพาะผู้พิการและทำหน้าที่เป็นดูแลบุคคลในครอบครัวหรือผู้พึ่งพิงที่มีความพิการ รวมถึงควรมีการเพิ่มบริการด้านสุขภาพจิตและทรัพยากรเฉพาะสำหรับผู้ดูแล และมีการตรวจสอบระบบการจ้างงาน การประเมินผล และการเลื่อนตำแหน่งอย่างเป็นระบบ เพื่อลดอคติที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ดูแลและส่งเสริมการเป็นผู้นำที่ครอบคลุม

รายงานฉบับนี้สะท้อนให้เห็นว่านายจ้างและผู้กำหนดนโยบายเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ของนโยบายการดูแลและสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และสอดคล้องกันในที่ทำงาน อีกทั้งเน้นความสำคัญของการสร้างระบบการดูแลที่ครอบคลุมผู้พิการ โดยเฉพาะในบริบทของการทำงานที่มีคุณค่าและเศรษฐกิจการดูแล พร้อมแผนปฏิบัติการที่ส่งเสริมการขยายบริการช่วยเหลือผู้พิการ เพื่อสนับสนุนความพึ่งพาตนเอง ความเป็นอิสระ และการเข้าถึงโอกาสในการทำงาน

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ขจัดความยากจน
– (1.3) ดำเนินการให้ทุกคนมีระบบและมาตรการการคุ้มครองทางสังคมระดับประเทศที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงฐาน การคุ้มครองทางสังคม (floors) โดยให้ครอบคลุมกลุ่มประชากรยากจน และกลุ่มเปราะบางให้มากพอ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG3 สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
– (3.4) ลดการตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อให้ลดลงหนึ่งในสาม ผ่านทางการป้องกันและการรักษาโรค และสนับสนุนสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี ภายในปี 2573
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
– (8.5) บรรลุการจ้างงานเต็มที่และมีผลิตภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับหญิงและชายทุกคน รวมถึงเยาวชนและผู้มีภาวะทุพพลภาพ และให้มีการจ่ายค่าจ้างที่เท่าเทียมสำหรับงานที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ 
– (10.2) เสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมความครอบคลุมทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงอายุ เพศ ความพิการ เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ แหล่งกำเนิด ศาสนา สถานะทางเศรษฐกิจ หรืออื่น ๆ ภายในปี พ.ศ. 2573
#SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
– (16.7) สร้างหลักประกันว่าจะมีกระบวนการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบ ครอบคลุม มีส่วนร่วม และมีความเป็นตัวแทนที่ดี ในทุกระดับการตัดสินใจ
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.14) ยกระดับความสอดคล้องเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
– (17.18) ยกระดับการสนับสนุนด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศพัฒนาน้อยที่สุดและรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ให้เพิ่มการมีอยู่ของข้อมูลที่มีคุณภาพ ทันเวลาและเชื่อถือได้ จำแนกตามรายได้ เพศ อายุ เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ สถานะการอพยพ ความพิการ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และคุณลักษณะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามบริบทของประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2563

แหล่งที่มา : 
Care to Compete: New ILO report shows business case for care policies for employees with disabilities (International Labour Organization)
“Care to Compete” report on disability-inclusive practices (International Labour Organization)

Author

  • Praewpan Sirilurt

    Knowledge Communication | มนุษย์ผู้เชื่อว่า “การสื่อสารสามารถเชื่อมต่อความรู้สึกของกันและกันได้” ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน หรือเผชิญกับอะไรอยู่ การสื่อสารจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวส่งไปให้แก่ผู้อื่นได้รับรู้

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น