วันนี้ 18 มิถุนายน 2568 Times Higher Education (THE) องค์กรจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก จากประเทศอังกฤษ ได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) หรือ “THE Impact Rankings” ประจำปี 2568
การจัดอันดับข้างต้น ใช้การประเมินตัวชี้วัดภายใต้ 4 ขอบเขตหลัก ได้แก่ 1) งานวิจัย (research) 2) นโยบายและแนวทางปฏิบัติภายในมหาวิทยาลัย (stewardship) 3) การเชื่อมโยงกับสังคมในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับโลก (outreach) และ 4) การเรียนการสอน (teaching) โดยผลคะแนนรวมของแต่ละมหาวิทยาลัย มาจากการคำนวณคะแนนของเป้าหมายที่ 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) และอีก 3 เป้าหมายที่มหาวิทยาลัยได้คะแนนสูงสุด ทั้งนี้เพื่อให้คะแนนสะท้อนด้านที่มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญ โดย SDG 17 คิดเป็น 22% ของคะแนนรวม สำหรับ SDGs อื่น ๆ คิดเป็นเป้าหมายละ 26% หรือตามสูตรคำนวณดังนี้: (SDG17)(0.22) + (SDGx)(0.26) + (SDGy)(0.26) + (SDGz)(0.26)
ภาพรวมอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก
ปีนี้ มหาวิทยาลัยทั่วโลกเข้าร่วมการจัดอันดับทั้งสิ้น 2,526 แห่ง จาก 130 ประเทศ (เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีมหาวิทยาลัยร่วมจัดอันดับ 2,152 แห่ง) โดยมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 2,318 เเห่ง ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับที่ 1 Western Sydney University (ออสเตรเลีย)
อันดับที่ 2 University of Manchester (สหราชอาณาจักร)
อันดับที่ 3 Kyungpook National University (KNU) (เกาหลีใต้)
อันดับที่ 4 Griffith University (ออสเตรเลีย) และ University of Tasmania (ออสเตรเลีย)
ภาพรวมอันดับมหาวิทยาลัยในไทย
ปีนี้ มหาวิทยาลัยจากประเทศไทยส่งข้อมูลและได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 83 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก 77 เเห่ง เมื่อปี 2567 เเละ 65 เเห่ง เมื่อปี 2566 โดยพบว่ามีทั้งมหาวิทยาลัยรัฐขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยราชมงคลจากจังหวัดต่าง ๆ นับเป็นความก้าวหน้าที่ต่อเนื่องในการติดอันดับ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจภาควิชาการในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน SDGs
สำหรับมหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับ top 600 ของโลก ทั้งสิ้น 14 มหาวิทยาลัย จัดเป็นกลุ่มได้ 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ top 100 ของโลก ได้แก่
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อันดับ 44 ของโลก)
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อันดับ 44 ของโลก)
- มหาวิทยาลัยมหิดล (อันดับ 64 ของโลก)
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อันดับ 64 ของโลก)
- มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (อันดับ 93 ของโลก)
กลุ่มที่ 2 มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ top 101 – 200 ของโลก ได้แก่
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กลุ่มที่ 3 มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ top 401 – 600 ของโลก ได้แก่
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- มหาวิทยาลัยนเรศวร
- มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ในระดับเป้าหมาย (goal) มหาวิทยาลัยจากประเทศไทย สามารถทำอันดับที่ดีได้อย่างน่าประทับใจ โดยสามารถอยู่ใน 20 อันดับสูงสุดของโลก ได้ทั้งสิ้น 7 เป้าหมาย ดังนี้
SDG2 ขจัดความหิวโหย
อันดับที่ 18 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
SDG3 การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
อันดับที่ 3 มหาวิทยาลัยมหิดล
อันดับที่ 5 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
อันดับที่ 17 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ
อันดับที่ 1 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
อันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อันดับที่ 12 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
อันดับที่ 19 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อันดับที่ 14 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อันดับที่ 20 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
SDG16 ความสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มเเข็ง
อันดับที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อันดับที่ 19 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)
SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
อันดับที่ 15 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ภาพรวมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ปีนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังคงครองอันดับ ติด top 100 ของโลกเป็นปีที่ 2 (อันดับ 64 ของโลก) หลังจากเมื่อปี 2567 ทะยานเข้า top 100 ครั้งแรก (อันดับ 81 ของโลก) ซึ่งเป็นความก้าวหน้าที่กระโดดขึ้นมาถึง 17 อันดับ โดยเป้าหมายที่มีคะแนนและอันดับโดดเด่นระดับโลก เช่น
- SDG5 ได้อันดับที่ 5 ขยับจากอันดับที่ 28 ในปี 2567
- SDG11 ได้อันดับที่ 38 ขยับจากอันดับที่ 51 ในปี 2567
- SDG16 ได้อันดับที่ 4 ขยับจากอันดับที่ 19 ในปี 2567
- SDG17 ได้อันดับที่ 62 ขยับจากอันดับที่ 201-300 ในปี 2567
นอกจากนี้ อีกสองมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่มีพัฒนาการโดดเด่นเเละน่าจับตามอง คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ซึ่งปีนี้ได้รับการจัดอันดับอยู่ในช่วง 401–600 สำหรับ SDG 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพิ่มขึ้นจากช่วง 1,501+ เมื่อปีที่ผ่านมา หนึ่งในการขับเคลื่อนที่สำคัญ คือการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันในประเทศ ร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศในจีนและญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติในการพัฒนาที่ยั่งยืน ขณะที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ก็สามารถขยับจากอันดับ 101 – 200 เมื่อปีที่เเล้ว มาอยู่ในอันดับ top 100 ได้ในปีนี้เป็นครั้งเเรก
อย่างไรก็ดี ปีนี้มีมหาวิทยาลัยในเอเชียครองอันดับมากกว่าครึ่งหนึ่งของอันดับทั้งหมด และเป็นผู้นำในการจัดอันดับเป้าหมายแต่ละเป้าหมายถึง 10 จาก 17 เป้าหมาย ซึ่งเพิ่มจาก 5 เป้าหมายเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงปีนี้มีประเทศและดินแดนใหม่ที่เข้าร่วมการจัดอันดับถึง 8 แห่ง ได้แก่ บอตสวานา บูร์กินาฟาโซ เอลซัลวาดอร์ เอสโตเนีย มัลดีฟส์ นามิเบีย ปาปัวนิวกินี และเซเนกัล
● อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง
– THE Impact Rankings 2024: มหาวิทยาลัยไทย 10 แห่ง ทะยานติด Top 300 ของโลก
– THE Impact Rankings 2023: มหาวิทยาลัยไทยกว่า 9 แห่ง ติด Top 400 ของโลก
– จุฬาฯ และ มจธ. ติดอันดับ Top 100 ของโลก จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย THE Impact Rankings 2021
– มหาวิทยาลัยจาก ไทย และ ปากีสถาน ส่งผลงาน SDGs เพื่อจัดอันดับ THE Impact Rankings 2022 เพิ่มเท่าตัว
– จุฬาฯ และ มช. ติดอันดับ Top 100 ของโลกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย THE Impact Rankings 2022
แหล่งที่มา :
– University Impact Rankings 2025 – Times Higher Education (THE)
– Impact Rankings 2025: results announced – Times Higher Education (THE)
แพรวพรรณ ศิริเลิศ และอติรุจ ดือเระ – เรียบเรียง
วิจย์ณี เสนแดง – ภาพประกอบ
Last Updated on มิถุนายน 18, 2025