SDG Index 2025 ไทยขยับกลับสู่อันดับ 43 ของโลก ยังยืนหนึ่งในอาเซียน – พบ 6 เป้าหมายน่าห่วง ตกอยู่ในสถานะท้าทายมาก

วันนี้ (24 มิถุนายน 2568) Sustainable Development Solutions Network (SDSN) ได้เผยแพร่ “รายงานการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Report) และ SDG Index ประจำปี 2568” ซึ่งเป็นฉบับที่ 10 หลังจากเริ่มจัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2558 โดยถือได้ว่าเป็นการรายงานผลที่ให้ข้อมูลสถานการณ์ SDGs ที่เป็นปัจจุบันอย่างต่อเนื่องที่สุด และเป็นการจัดอันดับผลการดำเนินงานด้าน SDGs ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ในปีนี้ รายงานข้างต้นเผยแพร่ในธีม “A Decade After Their Adoption at the UN, the World Remains Highly Committed to the Sustainable Development Goals” หรือ “หนึ่งทศวรรษหลังรับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โลกยังคงมุ่งมั่นอย่างเเน่วเเน่เพื่อบรรลุ” เนื้อหาประกอบด้วยข้อค้นพบจากสถานการณ์ความก้าวหน้าและความถดถอยของการดำเนินงานขับเคลื่อน SDGs ทั้งระดับโลกและระดับภูมิภาค ไปจนถึงบทสังเคราะห์ และข้อเสนอแนะจากคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อการแก้ปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ที่เหนี่ยวรั้งความมุ่งมั่นและความพยายามของทุกภาคส่วนเพื่อการบรรลุ SDGs ให้ทัน ภายในปี 2573

ภาพรวมสถานการณ์ SDGs ระดับโลก อย่างรวบรัดที่ปรากฏในจดหมายข่าว (press release) พบว่ามีประเด็นที่สำคัญ 5 ประเด็น ได้แก่ 

  • ความมุ่งมั่นเพื่อบรรลุ SDGs ทั่วโลกอยู่ในระดับสูง โดยจนถึงปัจจุบัน มี 190 จาก 193 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติแล้วที่เข้าร่วมกระบวนการ ‘รายงานผลการทบทวนการดำเนินงานตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ระดับชาติโดยสมัครใจ’ (Voluntary National Review: VNR) เพื่อเสนอแผนและลำดับความสำคัญด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับชาติของตนเอง โดยมีเพียง 3 ประเทศเท่านั้นที่ยังไม่เข้าร่วม ได้แก่ เฮติ เมียนมา และสหรัฐอเมริกา
  • ประเทศในยุโรปยังคงเป็นผู้นำใน SDG Index ขณะที่ประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้มีความก้าวหน้ามากที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ โดยหากพิจารณาจากปี 2558 พบว่าปีนี้ ประเทศที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าจับตา เช่น เนปาล (+11.1 คะแนน) กัมพูชา (+10 คะแนน) บังคลาเทศ (+8.3 คะแนน) และ มองโกเลีย (+7.7 คะแนน) ส่วนจีนและอินเดีย ขยับขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม Top 50 และ Top 100 ได้ตามลำดับ
  • ความก้าวหน้าในการขับเคลื่อน SDGs หยุดชะงัก โดยยังไม่มีเป้าหมาย SDGs ใดที่อยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุได้ภายในปี 2573 และพบว่ามีเพียง 17% ของเป้าหมายย่อยเท่านั้นที่ยังอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุได้ ซึ่งมีปัจจัยขัดขวางหลักคือความขัดแย้ง ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง และข้อจำกัดทางการเงิน
  • ดัชนีประเทศที่สนับสนุนการทำงานพหุภาคีตามแนวทางขององค์การสหประชาชาติ (UN-based multilateralism: UN-Mi) ปี 2568 ซึ่งพิจารณาจากการมีส่วนร่วมกับระบบขององค์การสหประชาชาติ  ชี้ว่าบาร์เบโดสยังคงเป็นผู้นำในความมุ่งมั่นมากที่สุด ขณะที่สหรัฐอเมริกาถูกจัดอยู่อันดับท้ายสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการถอนตัวจากข้อตกลงปารีสและการแสดงออกอย่างเป็นทางการถึงการไม่สนับสนุน SDGs และวาระการพัฒนา 2030
  • จำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศ (Global Financial Architecture: GFA) อย่างเร่งด่วนเพื่อสนับสนุน SDGs โดยการประชุม Ff4D ครั้งที่ 4 ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2568 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศสมาชิก UN ในการปฏิรูประบบนี้ เพื่อให้เงินทุนระหว่างประเทศไหลเวียนอย่างเพียงพอไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจกำลังพัฒนา (Emerging markets and developing economies: EMDEs) เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดอันดับ SDG Index ระดับโลก ปีนี้มีประเทศที่ถูกจัดอันดับทั้งสิ้น 167 ประเทศ เท่ากับปีที่แล้ว (2567)  โดยประเทศที่ติด Top 5 อันดับแรก ประกอบด้วย ฟินแลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก เยอรมนี และฝรั่งเศส ตามลำดับ ขณะที่ประเทศที่ถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับสุดท้าย ประกอบด้วย เยเมน (อันดับ 163) โซมาเลีย (อันดับ 164) ชาร์ด (อันดับ 165) สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (อันดับ 166) และซูดานใต้ (อันดับ 167) ซึ่งครองอันดับเดิมจากปีที่แล้ว

ส่วนประเทศไทย ปีนี้ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่อันดับ 43 ของโลก ขยับอันดับขึ้นมา 2 อันดับจากปี 2567 ซึ่งอยู่ที่อันดับ 45 ขณะเดียวกันคะแนนรวมก็ขยับขึ้นเป็น 75.3 คะแนน มากกว่าปี 2567 ถึง 0.6 คะแนน ถือว่าสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งอยู่ที่ 69.5 คะแนน

หากเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วยกัน พบว่าประเทศไทยยังครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน (2562 – 2568) ตามมาด้วย เวียดนาม (อันดับ 61) สิงคโปร์ (อันดับ 69) อินโดนีเซีย (อันดับ 77)  มาเลเซีย (อันดับ 84)  ฟิลิปปินส์ (อันดับ 87) บรูไนดารุซซาลาม (อันดับ 92) กัมพูชา (อันดับ 101) เมียนมา (อันดับ 116) และลาว (อันดับ 121) ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2567 พบว่ามีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่มีอันดับก้าวหน้าขึ้น คือ ไทย ฟิลิปปินส์ บรูไนดารุซซาลาม กัมพูชา และเมียนมา ขณะที่อีก 5 ประเทศมีอันดับถดถอยลง ได้แก่ เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และลาว 

นอกจากนี้ หากเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ พบว่าไทยรั้งอันดับที่ 3 เป็นรองจากญี่ปุ่น (อันดับ 19) และเกาหลีใต้ (อันดับ 34) 

ทั้งนี้ หากพิจารณาสถานะรายเป้าหมายเทียบของไทยในปีนี้กับปี 2567 มีข้อค้นพบที่น่าสนใจ ดังนี้

  • เป้าหมายที่มีสถานะบรรลุเป้าหมายแล้ว (สีเขียว) สามารถบรรลุเป้าหมายได้ คือ SDG1 (ยุติความยากจน) และ SDG4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) ซึ่งยังคงอยู่ในสถานะบรรลุเป้าหมายเดิมจากปี 2567 อย่างไรก็ดีค่าสีสถานะที่ปรากฏตามรายงานฉบับนี้พิจารณาจาก 2 ตัวชี้วัดที่มี ‘สถานะแย่ที่สุด’ ในเป้าหมายนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของทุกประเทศทั่วโลกจึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงรายละเอียดข้อมูลในระดับตัวชี้วัดเพิ่มเติม
  • เป้าหมายที่มีสถานะท้าทาย (สีส้ม) มีทั้งสิ้น 9 เป้าหมาย ลดลงจาก 10 เป้าหมายในปี 2567  ได้แก่ SDG5 (ความเท่าเทียมทางเพศ) SDG6 (น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล) SDG7 (พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้) SDG8 (งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ) SDG9 (โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม) SDG10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) SDG12 (การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน) SDG13 (การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ SDG17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) อย่างไรก็ดี ปีนี้ ไม่มีเป้าหมายที่มีแนวโน้มอยู่ในทิศทางที่จะบรรลุได้ ขณะที่ SDG5 SDG6 SDG7 และ SDG9 มีแนวโน้มค่อนข้างก้าวหน้า ส่วนอีก 5 เป้าหมายที่เหลือยังคงไม่คืบหน้า
  • เป้าหมายที่มีสถานะท้าทายมาก (สีแดง) มีทั้งสิ้น 6 เป้าหมาย เพิ่มขึ้น 1 เป้าหมายจากปี 2567 ได้แก่ SDG2 (ยุติความหิวโหย) SDG3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) SDG11 (เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน) SDG14 (ทรัพยากรทางทะเล) SDG15 (ระบบนิเวศบนบก) และ SDG16 (สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันที่เข้มแข็ง) ทั้งนี้เมื่อเทียบข้อมูลจากปีที่แล้ว พบว่าเหตุผลที่ทำให้ปีนี้ SDG11 ตกอยู่ในสถานะสีแดง เนื่องจากผลการดำเนินงานในตัวชี้วัดเรื่องความเข้มข้นเฉลี่ยรายปีของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 (μg/m³) มีแนวโน้มที่ถดถอยลง และมีความท้าทายอย่างมาก ขณะที่ปีที่แล้วอยู่ในแนวโน้มที่ยังคงไม่คืบหน้า
  • ปีนี้ไม่มีเป้าหมายใดของไทยอยู่ในสถานะยังคงมีความท้าทายบางส่วน (สีเหลือง)

SDG Move จะนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์สถานการณ์ของประเทศไทย ตาม SDG Index เร็ว ๆ นี้


แพรวพรรณ ศิริเลิศ เเละ อติรุจ ดือเระ – เรียบเรียง
วิจย์ณี เสนแดง – ภาพประกอบ

ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ
#SDG1 ยุติความยากจน
#SDG2 ยุติความหิวโหย
#SDG3 สุขภาพเเละความเป็นอยู่ที่ดี
#SDG4 การศึกษาที่มีคุณภาพ
#SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ
#SDG6 น้ำสะอาดและการสุขาภิบาล
#SDG7 พลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้
#SDG8 งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
#SDG9 โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม เเละอุตสาหกรรม
#SDG10 ลดความเหลื่อมล้ำ
#SDG11 เมืองเเละชุมชนที่ยั่งยืน
#SDG12 การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
#SDG13 การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
#SDG14 ทรัพยากรทางทะเล
#SDG15 ระบบนิเวศบนบก
#SDG16 สังคมสงบสุข ยุติธรรม และสถาบันเข้มแข็ง
#SDG17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

แหล่งที่มา : Sustainable Development Report 2025 (SDSN)

Author

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและรายละเอียดของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อการพัฒนาการสื่อสารองค์ความรู้ของ SDG Move เท่านั้น
* หมายถึง ข้อมูลที่จำเป็น